เออ เรื่องมันเริ่มจากเมื่อเดือนที่แล้ว ผมตัดสินใจเรียนภาษาอังกฤษเพื่อสอบ IELTS ผมอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ เลยต้องเริ่มต้นใหม่หมด เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา เปิดมือถือแล้วหาข้อมูลในเน็ต ผมค้นหาเรื่อง IELTS แต่หัวมั่วไปหมดเพราะข้อมูลเยอะมาก กว่าจะเจอวิธีง่ายๆ ก็ปาไปสองสามวัน
วิธีการเรียนที่ผมเริ่มทำ
ก่อนอื่น ผมซื้อหนังสือแบบฝึกหัดมาตั้ง แต่หนังสือมันราคาแพง น่าหงุดหงิด ผมเลยใช้วิธีฟรีๆ แทน เช่น เปิดยูทูปฟังเพลงอังกฤษตอนเช้า มันช่วยเรื่องการฟัง แต่ก็เบื่อง่าย ผมแบ่งเวลาทุกวันให้ชัดเจน:
- ช่วงเช้า ผมฝึกฟังเสียงแม่นatives แค่ 30 นาทีแล้วนั่งทำโจทย์คำศัพท์
- เที่ยงๆ ผมฝึกพูดกับตัวเองในกระจก พยัญชนะอังกฤษมันงอกว่าไทย ผมสำเนียงแปลกๆ จนเพื่อนฮา
- เย็นลง ผมจดจ่อเขียน essay สั้นๆ เรื่องใกล้ตัว เช่น เล่าถึงครอบครัว
โอ้ย มันเหนื่อยมาก แรกๆ ผมทำแปปเดียวก็หมดแรง แต่ผ่านไปสักอาทิตย์ มันเริ่มชิน ช่วงที่สาม ผมซ้อมแบบทดสอบเต็มรูปแบบ คือ จับเวลาตัวเองเหมือนนั่งสอบจริง
ปัญหาที่เจอแล้วแก้อย่างไร
ระหว่างทางนี้ มันบิดพลิกไม่หยุด อย่างนึงคือเวลาไม่พอเพราะผมต้องทำงานประจำ เลยต้องตื่นตีห้าทุกวัน มันช่างทรมานเอาการ บางครั้งเรียนไปกดดันแล้วเครียดจัด ผมร้องไห้เป็นครั้งคราว เพราะคำศัพท์มันลืมง่ายเหมือนฝุ่นลอยไปเลยย อีกปัญหาใหญ่คือฟังไม่ทันในข้อสอบ mock test แรกๆ ผมได้แค่ 5 เต็ม 9 น่าอายมาก แต่ผมไม่ยอมแพ้
วิธีแก้ ผมหาเพื่อนมาช่วยฝึกพูดกันแบบสบายๆ ไม่ใช่ครูอะไรสูงส่ง แค่คุยเรื่องซีรีส์หรืออาหารไทยนี่แหละ เลยช่วยให้เสียงออกมาไม่กระแด่ว นอกจากนี้ ผมปรับตารางเรียนใหม่ให้ยืดหยุ่นขึ้น เช่น ถ้าวันไหนเหนื่อย ผมข้ามการเขียนไปก่อน แล้วทวนแค่การอ่านแทน
ตอนสอบจริงจนได้ผลลัพธ์
ปากบอกว่ามั่นใจ แต่ใจในสั่นเหมือนข้าวมันไก่ในไมโครเวฟ วันสอบ ผมนั่งในห้องน่าตื่นเต้น เหงื่อแตกพลั่กๆ โจทย์การฟังช่วงแรก ผมฟังแทบไม่ทัน แต่ฟังไปเรื่อยๆ ผมก็นึกถึงการฝึกแล้วพยายามทำใจเย็น จบข้อสอบ ผมรอผลแป๊บหนึ่งเหมือนถูกทรมาณ ในที่สุด เมื่อเช้านี้คะแนนออกมา ผมได้ 7 เต็ม 9 น่าดีใจที่สุด แม้ไม่ถึงเป้าหมายสูง แต่ก็ใช้สมัครเรียนต่อได้แล้ว
ตอนนี้ผมรู้สึกโล่งหัว เพราะผ่านเหตุการณ์มันมาทั้งหมด ถ้าผมกลับไปเริ่มใหม่ได้ ผมจะเริ่มช้ามากกว่านี้ เดี๊ยนใจเกินไปน่ะ แต่มันก็จบด้วยดีแล้วนะ