ตอนเช้าๆที่ 7-11 ป้าแป้งถามว่า “กาแฟเอาแบบไหนดี” แต่ยืนงงไปสิบวิ่ง เพราะไม่เข้าใจเลยว่าป้าพูดว่าอะไร อายมากที่อายุยี่สิบปียังฟังไม่ออกว่าป้านี่ถามอะไรเนี่ย นั่งคิดในรถไฟฟ้าว่าต้องเริ่มเรียนแล้วให้ได้
เสาะหาของฟรีตามเน็ต
แรกสุดถีบมอไซด์ไปร้านหนังสือเจอแต่พวกตำราหนาเตอะ ราคาเล่มละหลายร้อย ตอนเห็นราคาก็ถอยฮวบเลย เพราะแค่ขนมปังนมก็หมดตัวแล้ว
กลับมาบ้านดึ่กมึ๊กๆ กด YouTube ไปงั้นแหละ เริ่มค้นแบบมั่วๆ:
- “เรียนภาษาอังกฤษไม่ต้องเสียตังค์”
- “พูดอังกฤษตอนซื้อข้าว”
ก็เจอคลิปนึงสาวเค้าสอนตอนซื้อของอย่างช้าๆ แถมเค้ายกมือโชว์ร้าน 7-11 เหมือนบ้านเราเป๊ะ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ทุกเช้า 6 โมงครึ่ง ให้ดูตอนล้างหน้าก่อนไปทำงาน
เลียนแบบป้าแป้ง
ฝึกสัปดาห์แรกพยายามจำศัพท์ใกล้ตัวก่อน:
- เอาโพสต์อิทติดตู้เย็นว่า Milk
- ติดกระจกห้องน้ำว่า Coffee
- แปะไว้บนขวดน้ำว่า Ice
เวรฝึกนัดดูคลิปตอนเที่ยงคืนแต่ดันง่วงจัด เปิดไว้ทั้งคืน พอเช้ามาหูแว่วเสียง “Do you want ICE?” ซ้ำๆ นึกว่าปีศาจมาสอนอังกฤษ
สั่งของครั้งแรกแบบฝืดๆ
สัปดาห์ที่สองใจเย้ย! ท้าทายสั่งกาแฟเองหน้าร้าน:
“คอฟ…ฟี…อ๊าบ.” เสียงแตกเองในตลาด มือสั่นจนเหล็กในหล่นกราว แต่ดีที่ป้าใจดีรอให้พูด
เจอปัญหาตอนจะสั่งน้ำแข็ง: “ไอซ์” ที่ว่าไว้ดันพูดเป็น “อัส” ป้าดูหน้าแบบงงๆ แทนที่จะได้แก้วใหญ่ดันได้แก้วเล็กแบบจุ๊บเดียว จนต้องเซงเอาหม่าล่าอีกปิ่นโต
ทริคฝากท้อง
พอผ่านเดือนนึงคิดเกมส์ง่ายๆ เวลาเดินแถวท่องเที่ยวเจอฝรั่ง:
ห้ามเดินหนี
ต้องยกมือไหว์ก่อน
มีหนุ่มฝรั่งถามทางไปวัดแบบตะกุกตะกัก: “วะวะ..วัด?” ก่อนหน้านี้คงทำหน้างุนงงแล้วให้ผ่านไป แต่คราวนี้ดึงโทรศัพท์ออกมาเปิด Google Map พร้อมกับยิงสามคำแบบฝึกมา:
- “Turn”
- “Left”
- “Boat”
เค้ายิ้มแล้วให้ข้าวเหนียวมูลมาแผ่นนึง แถมได้น้ำมะพร้าวฟรีๆด้วย น้ำตาจะไหลเพราะแค่หนี้งูๆปลาๆพูดไม่เนียนก็ได้กินของฟรี
ตอนนี้ยังฟังเพลงฝรั่งไม่แตก แต่เวลาเข้า 7-11 ไม่ต้องยืนกุมขมับแล้วก็ดีใจล่ะ ปล.อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งเข้าใจว่า “เชอร์เบ็ท” ไม่ใช่ชื่อแมวแต่น้ำหวานแช่แข็ง แกงๆจริงภาษาเนี่ย!