วันนี้เอ๋ขอมาบันทึกประสบการณ์ฝึกภาษาอังกฤษพื้นฐานกันหน่อยเนอะ จะบอกว่าตอนแรกเริ่มนี่มืดแปดด้านเลย พอตัดสินใจเรียนก็หยิบมือถือมากดแอพสอนภาษาดังๆ สมัครคอร์สแรกทันที
อาทิตย์แรกตะกุกตะกักมาก
- เริ่มสัปดาห์นึงนี่คิดว่าแค่ท่องศัพท์ก็พอ อัดวันละ50คำ ตื่นมาก็ตะบี้ตะบันท่อง cat/dog/run พอตกเย็นจำได้แค่คำว่า “apple” นี่แหละ โคตรท้อ
- ลองเปิดซีรีส์ฝรั่งแบบไม่มีซับ ตอนบทพูดธรรมดาพอเดาได้ พอถึงประโยคยาวๆ หูได้ยินแต่ “อื้อๆอ้าร่อๆ” เหมือนหมาเห่าคอนเสิร์ตเพื่อนบ้าน
เพื่อนเก่ามาเห็นท่าไม่ไหวเลยยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ อันนี้แหละจุดเปลี่ยน
วิธีม้าด้อยแต่เวิร์คสุด
- ให้เริ่มจากเขียนไดอารี่เป็นไทยก่อน เรื่องอะไรก็ได้ ข้าวเช้ากินอะไร นกมันบินผ่านระเบียง
- ค่อยๆ ใช้กูเกิลแปลทีละประโยค มันจะค่อยๆ ซึมเข้าเส้น เล่นแทนเกมมือถือตอนรถติด
- สุดท้ายให้เอาประโยคที่แปลแล้วมาเล่าดังๆ ตอนแรกอายแมวตัวเองอยู่ห้องน้ำ พอครบสัปดาห์ที่สองยืนพูดกับกระจกตาเหยี๊ย
เจอฟันเฟืองชีวิตตอนโรงพยาบาล
อยู่ๆ น้องชายที่ออสเตรเลียเกิดอุบัติเหตุ ครอบครัวให้บินไปด่วน ไฟลท์จอดสนามบินซิดนีย์ปุ๊ป พนักงานตรวจเอกสารทักมาเป็นประโยคยาวๆ เล่นเอาหน้ามืด เหงื่อแตกโชก ถึงได้นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนมันบ้าอะไรให้ซ้อมเรื่องอาหาร
ยื่นใบรายงานแพทย์พร้อมตะโกนรัวๆ : “Brother… eat rice… hospital now!” พอเห็นเค้าส่ายหัวก็ยิ่งเหวอ จนนึกประโยคเก่าในไดอารี่ได้ เปลี่ยนเป็น “My brother need HELP!” ทันใดนั้นใบหน้าพนักงานเปลี่ยน บอก “Follow me” โล่งเลยเฮือก
ตอนนี้ยังไม่เป๊ะแต่ไม่ตื่นตู้อีกแล้ว
กลับมาก็ฝึกตามวิธีนั้นต่อ 3 เดือนผ่านไป วันก่อนเจอทัวร์ริสต์หลงใน MRT เค้าถามทางด้วยสำเนียงแปลกๆ พยักหน้าแล้วพาไปจนถึงจุดหมายได้ ถึงพูดกระจัดกระจายแบบ “You… go left… blue sign” แต่เค้าเข้าใจ!
บางทีการเรียนที่ได้ผลไม่ต้องเริ่มจากตำราหนาเตอะ อย่าลืมเอาประโยคใกล้ตัวมาเล่นดูก่อน มันอาจช่วยเราไว้ตอนคับขันโดยไม่คาดคิดเหมือนเอ๋ก็ได้นะ