วันนี้จะมาแชร์วิธีที่ตัวเองลองทำมาโดยตรงเลยนะ เกี่ยวกับเรื่องฝึกฟังพูดภาษาอังกฤษ ก่อนอื่นต้องบอกว่าแต่ก่อนนูนึกว่าตัวเองอ่อนแค่แกรมม่า อ่านเขียนยังพอได้อยู่ แต่พอเจอฝรั่งทีไรเหมือนสมองเดี้ยงตลอด อายจนไม่อยากเปิดปากเลยอะ
ขั้นแรก : ลองวิธีเดิมๆ ที่คนเขาแนะนำกัน
เริ่มจากดูหนังฝรั่งซับไทยก่อนนะ พอทำไปสักพักก็ไม่ค่อยได้ผล ชอบเพลินเรื่องจนลืมฟังเสียงอังกฤษ ปัญหาเดิมๆ เลยคือพี่แกอ่านซับไทยเร็วกว่าพากย์เสียงอีก! เปลี่ยนเป็นฟังเพลงตามคลิปสอนก็แล้ว แต่มักจะมัวแต่จดเนื้อเพลงจนลืมฝึกพูดตาม
จุดเปลี่ยน : หักดิบใช้วิธีใหม่แบบเลิกประวิง
อาทิตย์ก่อนตัดสินใจปิดซับไทย+ตัดเนื้อเพลงทิ้งไปเลย โดยตั้งกฎกับตัวเองง่ายๆ แค่ 2 ข้อ:
- ไม่ต้องพยายามเข้าใจทุกคำ
- ฟังไปงงไปก็ให้พูดตามอ้อแอ้ไปด้วย
เริ่มด้วยการดูคลิปสั้นๆ 5 นาทีที่ครูฝรั่งสอนทำคุกกี้ (เพราะเห็นภาพชัด) วันแรกนี่โคตรทรมาน! สมองพยายามแปลตลอดเวลา ลิ้นพันกันยุ่งเหยิง พูดตามได้แค่แบบ: “เอิ่ม…อาเดด…ฟลาว?…ฟลาวเวอร์?”
ช่วงข้ามผ่านความบึ้ม
พอวันที่ 3 เริ่มยอมรับว่าตัวเองพูดผิดไม่เป็นไร ลองออกเสียงมั่วๆ แบบไม่สนสำเนียง เปลี่ยนจากคิดว่า “ต้องพูดให้เป๊ะ” เป็น “แค่ทำให้ฝรั่งพอเข้าใจก็พอ” วิธีที่ใช้คือ:
- เลือกคลิปเดิมมาดูซ้ำโดยไม่เปิดซับ
- จับเวลาพูดตามให้ทันคนในคลิป (แบบไม่แคร์คำไหนขาดหาย)
- อัดเสียงตัวเองแล้วเปรียบเทียบ
เจอว่าพอพูดตามโดยไม่กดดัน กลับได้ยินคำเดิมๆ ซ้ำๆ ในคลิปชัดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เช่นคำว่า “knead the dough” ที่ตอนแรกคิดว่าเขาเรียกว่า “นีดายโด” ไง
ผลลัพท์ที่เซอร์ไพรส์ตัวเอง
ปล่อยให้ตัวเองฟังแบบมึนๆ อยู่หนึ่งอาทิตย์ พอไปเจอคลิปสัมภาษณ์นักร้องป๊อป (ที่ไม่มีซับ) จู่ๆ ก็ดึงศัพท์จากคลิปทำคุกกี้มาใช้ได้! พอเขาเล่าว่าเพลงใหม่เขาเน้น “mix different styles” ก็พอนึกภาพออกเพราะจำ “mix ingredients” ได้อยู่แล้ว หรือตอนเจอประโยค “I keep coming back to jazz” มันคล้ายกับในคลิปครูฝรั่งพูดว่า “I keep adding milk” นั่นล่ะ
ตอนนี้เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมหลายคนบอกว่า ไม่ต้องรีบเรียนแกรมม่าตอนแรกๆ เพราะแค่ให้หูฟัง+ปากพูดไปก่อนโดยไม่แคร์ถูกผิด เลยได้เรื่องไม่รู้ตัว… ก็แบบว่าถ้าไม่เคยเห็นคนเขานวดแป้ง dough ของจริงก่อน ก็ไม่มีทางรู้ว่า knead มันคือการขยำๆ แป้งนั่นแหละ ส่วนจะผสม tense แบบ past future perfect อะไรเนี่ย ค่อยไปแก้ทีหลังก็ได้!