วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าผมเปรียบเทียบคอร์สเรียนภาษาอังกฤษยังไง พอดีว่าเมื่อเช้านั่งดูยอดเงินในบัญชีแล้วรู้สึกว่าต้องพัฒนาตัวเองแล้ว เลยเริ่มหาข้อมูลคอร์สเรียนภาษาแบบจริงจัง
ขั้นแรกคือรวบรวมชื่อสถาบันทั้งหมด
เปิดกูเกิลเสิร์ชคำว่า “คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ” เจอทั้งสถาบันใหญ่ๆที่มีสาขาเยอะแยะไปจนถึงโรงเรียนเล็กๆแถวบ้านเลย นับคร่าวๆได้สิบกว่าที่ บางอันโฆษณาพาทัวร์นรกแบบเรียนเดือนเดียวพูดคล่อง! พอเห็นงี้ก็เอามาคิดเล่นๆว่าถ้างั้นทำไมคนไทยยังพูดอังกฤษไม่ค่อยได้
นัดหมายไปดูสถานที่กับราคา
เริ่มไล่โทรศัพท์ถามแต่ละที่ บอกพนักงานว่ามาจากเว็บไซต์แล้วพวกเขาสนใจมาก:
- สถาบันแรก นัดพบวันนี้ได้เลยราคาโปรโมชั่นวันนี้เท่านั้น!
- สถาบันที่สอง บอกส่วนลด 50% ถ้าลงทะเบียนตอนเย็นนี้
- สถาบันเล็กๆ แนะนำคอร์สกลุ่มเล็กแต่บอกว่าต้องจองคอร์สปีเดียวถึงจะคุ้ม
ตอนนั่งฟังแต่ละที่สนุกมาก พนักงานขายจะเน้นย้ำว่าสถาบันเขาเท่านั้นที่การสอนดีเลิศ บางที่ยื่นราคามาแบบนี้แล้วเอาราคาโปรโมชั่นมาให้ทีหลังลดไปอีก 20% ทำเอาตึ๊กๆแล้วถามตัวเองว่าแล้วราคาจริงมันเท่าไหร่กันแน่
มานั่งเปรียบเทียบแบบละเอียด
กลับมาบ้านเอาตารางมากางเลย ใส่ข้อมูลลงไปชัดๆ:
- จำนวนชั่วโมง VS ราคารวม
- ต้องซื้อหนังสือเพิ่มไหม
- ถ้ายกเลิกมีค่าใช้จ่ายอีกเท่าไหร่
พบเรื่องน่าตลกคือบางคอร์สดูถูกมากแต่พอดีไปดูข้อความตัวเล็กๆด้านล่างปรากฎว่าต้องซื้อแพ็กเกจแบบเรียนเสริมอีกสามตัว! คำนวณใหม่แล้วพุ่งไปเท่าคอร์สแพงๆที่เขาโฆษณามาอีกที
ตัดสินใจแบบงบแบบกัดฟัน
เลือกได้สองที่ในใจนึกว่าจะตัดสินใจวันพรุ่งนี้ ตื่นมาจะโทรไปทั้งสองที่ปรากฎว่า:
- สถาบันที่หนึ่ง ตอนนี้หมดโปรโมชั่นแล้ว ราคาขึ้นไปอีก 15%
- สถาบันที่สอง พนักงานคนเมื่อวานลาออกแล้วไม่มีใครรู้เรื่องโปรโมชั่นเก่า
สรุปเลยว่าคอร์สไหนก็ไม่ตรงใจซะแล้ว วางสายปุ๊บนั่งคิดไปซื้อหนังสือมาอ่านเองก่อนน่าจะคุ้มค่ากว่า
เจอทั้งแบบนี้แล้วรู้เลยว่าการจะหาที่เรียนภาษาให้คุ้มเงินนั้นยากกว่าตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีก!