หลายคนถามว่าทำไมพูดอังกฤษไม่ได้สักที ปัญหามันเริ่มจากเรารักความสมบูรณ์แบบเกินไป เริ่มจากไม่กล้าอ้าปากเลย นี่คือทางแก้ของผมที่ลองมาแล้วเป๊ะ
ขั้นแรก : ปัดฝุ่นพื้นฐานที่ไม่ได้ใช้จริง
ตอนเริ่มใหม่ๆ ผมเปิดดิกทีไรเวียนหัวทุกที เพราะเอาแต่จดศัพท์ยากๆ ที่ไม่เคยเจอในชีวิตประจำวัน เลยเปลี่ยนวิธีซะใหม่
- หยิบมือถือมาเก็บบันทึกเสียงตัวเอง แทนการใช้สมุด ทุกครั้งที่ได้ยินฝรั่งพูดคำง่ายๆ ในยูทูบ หรือซีรีย์ ผมกดหยุดแล้วเลียนแบบทันที
- ใช้แอพฟรีฝึกฟังแบบจับเวลาชั้น เปิดคลิปสั้นๆ ฟังครั้งแรกแบบไม่กดหยุด ฟังจบปุ๊บรีบพูดตามให้เร็วที่สุด ถ้าโดนตัดคะแนนก็ยิ้มๆ แล้วเริ่มใหม่
- บีบตัวเองด้วยตั้งค่ามือถือ เปลี่ยนภาษาทั้งระบบเป็นอังกฤษ ถึงจะกดผิดกดถูกบ้างแต่มันช่วยให้สมองปรับตัวเร็วมาก
ขั้นกลาง : หาคู่ตีฝอยให้คล่องปาก
ตอนฝึกไปสักพาก็เริ่มท้อเพราะพูดแล้วคนไม่เข้าใจ เลยหาแทคติกใหม่
เริ่มจากคุยกับ AI แทนมนุษย์ เปิดแชทบอทแล้วส่งเสียงพูดไปตรงๆ ถ้ามันงงผมก็พยายามปรับสำเนียงใหม่ พอAIเข้าใจได้นี่รู้สึกมีกำลังใจขึ้นร้อยเท่า
ดักจับเพื่อนร่วมงานต่างชาติ เวลามีประชุมออนไลน์ ผมจะเตรียมประโยคเด็ดไว้ 2-3 คำถามง่ายๆ พอถึงคิวถามนี่ใจเต้นรัวๆ แต่พอถามเสร็จคนตอบกลับมา ผมแค่นั่งฟังแล้วพยักหน้าไปเรื่อยๆ แม้จะฟังไม่รู้เรื่องก็ตาม!
ขั้นลุย : ยอมจ่ายค่าคนหัวเราะ
วันที่ตัดสินใจไปเรียนคอร์สตัวต่อตัวนี่หนักหนา เพราะครูเอเชียไม่ปล่อยผ่าน ตอนสั่งกาแฟที่เซเว่นเคยพูดว่า “I want coffee please” เลยพอกับครูให้พูดเป็น “Could I get a latte to go?” แถมต้องถามทางกลับด้วยประโยคยาวๆ
- โดนแก้เสียงทุกคำที่พูดผิด เจอตำแหน่งลิ้นผิดๆ ถูกๆ ตอนฝึกคำว่า “world” จนน้ำลายกระเด็น
- ยอมให้อัดวีดีโอตอนพูด เห็นตัวเองมือสั่น น้ำเสียงเครียด นี่คือยาระเบิดความอายชั้นดี
ตอนนี้พอบอกราคารถแท็กซี่ได้โดยไม่อาย มองหน้าแก็งค์นักท่องเที่ยวแล้วเดินเข้าไปถามทางได้ ส่วนสำเนียง? ครูฝรั่งบอกว่าเหมือนคนไทยพูดอังกฤษเป๊ะ ก็เอาเถอะ! ขอแค่มันสื่อสารกันรู้เรื่องก็นอนหลับฝันดีแล้ว