ต้องบอกตามตรงเลยนะ เราเองก็เคยคิดว่าภาษาอังกฤษเนี่ยเรียนตัวต่อตัวเมื่อไหร่จะได้ผลสักที วันนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงว่ามันใช้เวลานานแค่ไหน แล้วทำยังไงถึงจะพุ่งปรี๊ด
เริ่มต้นแบบช้าๆ ปั่นตารางจนหัวปวด
แรกๆ นะ เราลงเรียนตัวต่อตัวสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง เปิดสมุดจดดะเต็มเหยียด เริ่มจากท่องศัพท์วันละ 10 คำ เขียนแกรมมาร์จนมือเมื่อย ผ่านไปสองเดือน…พูดกับฝรั่งยังไม่ออกเลย รู้สึกเหมือนกบในกะลา ถามตอบได้แค่ในหนังสือ งงมากว่าทำไมตั้งใจเรียนขนาดนี้ยังไม่รุ่ง
ค้นพบทางรอด : บ้าตามล่าฝรั่งให้ได้
เราเปลี่ยนแผน! ลดเวลาอ่านเขียนแล้วออกไปจ้องตาเจ๊ฝรั่งแทน วันไหนมีคลาสก็เตรียมคำถามเป็นกอง:
- บรีมออนไลน์กับครูวันละครึ่งชั่วโมงก่อนนอน
- เปิดยูทูปแค่วาดฟังซาวด์แฝงตอนล้างจาน
- เดินจูงหมาแถวสวนสาธารณะ เจอฝรั่งเข้าให้นึกว่าเป็นพรีเซนต์งาน บอกทักทายไปพึ่บๆ เลย
สามอาทิตย์แรกมันช็อคมากนะ ตะกุกตะกักเหมือนหุ่นกระบอก พูดผิดๆถูกๆเต็มไปหมด แต่ครูไม่ปล่อยให้ซึม จนเราเลี่ยงการพูดไม่ได้เลย
ผลลัพธ์แบบถล่มทลาย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ผ่านไป 3 เดือนเต็ม เราเริ่มฟังหนังฝรั่งรอดโดยไม่ต้องซับ! แถมสั่งกาแฟที่ร้านได้ฉลุย ไม่ต้องยืนเงียบเหงาอยู่หน้าร้านแล้ว แต่สุดปังคือตอนโดนหัวหน้าโยนประชุมสไกป์กับคนอเมริกา ตื่นเต้นโคตรแต่ก็รอดมาได้แบบฉิว ถึงจะไม่เป๊ะร้อยแต่รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนเดิมแล้ว
สรุปง่ายๆ ให้เห็นภาพเลย :
- 💣 เรียนตัวต่อตัวเน้นแต่ตำรา : อาจต้องฟันฝ่า 8 เดือนถึงขึ้นคล่อง
- 🚀 เรียนตัวต่อตัว + พลิกมืืนมาพูดบ้าสุด : อัดสามเดือนรัวๆ เห็นฝันเป็นจริง
เอาเป็นว่าใครกลัวใช้เวลานาน ให้จำไว้เลยว่า วิธีดันเก่งเร็วคือ “พูดๆๆ” อย่างเดียว ยอมให้ฝรั่งเห็นเราอ่อนหัดไม่เป็นไร สำคัญว่าได้ฝึก