การเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษโดยไม่มีพื้นฐานอาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคน แต่ในความเป็นจริงแล้วมีวิธีการฝึกฝนง่ายๆ ที่บ้านที่สามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องลงทุนมากหรือเข้าเรียนสถาบันราคาแพง
ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้ชัดเจน
แทนการตั้งเป้าใหญ่เช่น “พูดอังกฤษคล่อง” ในช่วงเริ่มต้น ให้เน้นที่เป้าหมายย่อยที่เป็นรูปธรรมและวัดผลได้ง่าย เช่น:
- ท่องศัพท์พื้นฐาน 10 คำ/วัน
- ฟังเพลงภาษาอังกฤษวันละ 1 เพลง พร้อมหาความหมาย
- ฝึกพูดประโยคง่ายๆ 3 ประโยคต่อวัน เช่น การทักทาย การขอบคุณ
วิธีนี้ช่วยลดความกดดันและทำให้รู้สึกถึงความคืบหน้าได้จริง ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญสำหรับผู้เริ่มเรียน
ใช้สื่อฟรีรอบตัวให้เกิดประโยชน์
สภาพแวดล้อมในบ้านสามารถเปลี่ยนเป็น “ห้องเรียนภาษาอังกฤษ” ได้ฟรีด้วยวิธีเหล่านี้:
- ปรับอุปกรณ์ประจำวัน: ตั้งโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์เป็นภาษาอังกฤษ
- เสียงเพลงในบ้าน: ฟังพอดแคสต์หรือรายการสำหรับผู้เริ่มต้นระหว่างทำงานบ้าน เลือกหัวข้อสั้นๆ ไม่เกิน 5 นาที
- ของใกล้ตัวคือสื่อการสอน: แปะคำศัพท์ภาษาอังกฤษบนสิ่งของในห้องนอนหรือครัว เช่น กำแพง (wall), ตู้เย็น (refrigerator)
ฝึกพูดด้วยเทคนิคง่ายๆ แม้ไม่มีคู่
การฝึกพูดเป็นอุปสรรคใหญ่ของผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะเมื่ออยู่คนเดียว แต่เทคนิคเหล่านี้ช่วยได้:
- เลียนแบบเสียง (Shadowing): เปิดการ์ตูนหรือรายการที่ชอบ ฟังประโยคสั้นๆ แล้วพูดตามทันทีโดยไม่หยุด
- บันทึกเสียงตัวเอง: อ่านประโยคจากหนังสือหรือรายการทีวีง่ายๆ บันทึกฟังและเปรียบเทียบกับต้นแบบ
- พูดกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ: บรรยายสิ่งที่กำลังทำในชีวิตประจำวันง่ายๆ เช่น “I am drinking water”, “This is my book”
สร้างความต่อเนื่องแทนการเรียนนานๆ
ผู้ไม่มีพื้นฐานมักท้อเพราะพยายามฝึกครั้งละ 1-2 ชั่วโมงแล้วเหนื่อยล้า แท้จริงแล้วการฝึก “สั้นๆ แต่สม่ำเสมอ” ได้ผลกว่า:
- เรียนวันละ 15-20 นาที 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ดีกว่าเรียนสัปดาห์ละครั้งครั้งละ 2 ชั่วโมง
- ทำทุกอย่างให้ง่ายเข้าไว้: หยิบโทรศัพท์ทบทวนศัพท์ 10 คำตอนรออาหารสุก ฝึกฟังสั้นๆ ขณะอาบน้ำ
- ไม่ต้องกลัวผิด: การเริ่มต้นคือช่วงที่ต้องกล้าผิด จำไว้ว่าการสื่อสารได้แม้ไม่สมบูรณ์ดีกว่าความเงียบเพราะกลัวถูก
ความก้าวหน้าที่แท้จริงของการเรียนภาษาอังกฤษไม่ได้มาจากความสมบูรณ์แบบในวันแรก แต่มาจากความสม่ำเสมอ ผู้เริ่มต้นหลายคนพบว่าการเปลี่ยนกิจวัตรเล็กน้อยในบ้านและการยอมรับกระบวนการเรียนรู้อย่างค่อยเป็นค่อยไป สามารถสร้างรากฐานภาษาอังกฤษที่มั่นคงได้เร็วกว่าที่คาดไว้ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้มาก่อนแต่อย่างใด