2 เทคนิคพัฒนาทักษะฟัง-พูดภาษาอังกฤษเพื่อพิชิต IELTS
การสอบ IELTS โดยเฉพาะในส่วนของการพูด (Speaking) และการฟัง (Listening) ถือเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับผู้สอบจำนวนมากในประเทศไทย บ่อยครั้งที่ผู้เตรียมตัวสอบพบว่าการสื่อสารอย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติยังคงเป็นจุดที่ต้องพัฒนา ปัจจุบันมีเทคนิคที่น่าสนใจที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาอังกฤษแนะนำให้ผู้เตรียมสอบ IELTS นำไปใช้ในการฝึกฝน ซึ่งสามารถช่วยยกระดับทักษะการฟังและการพูดได้อย่างเห็นผล
เทคนิคแรกที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างสำหรับการพัฒนาทักษะการฟัง คือ การฟังเชิงรุก (Active Listening) เทคนิคนี้ไม่ใช่แค่การเปิดเสียงภาษาอังกฤษเป็นพื้นหลัง แต่เน้นการมีส่วนร่วมและโฟกัสอย่างเต็มที่ของผู้ฝึก
- การเลือกเนื้อหาที่เหมาะสม: ควรเริ่มจากบทสนทนาหรือหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน หรืองานอดิเรกที่ตนเองสนใจในระดับความเร็วปกติ เช่น รายการพอดคาสต์สั้นๆ ข่าวทางวิทยุ หรือคลิปสัมภาษณ์ใน YouTube
- การฟังซ้ำ: ให้ฟังครั้งแรกโดยไม่ดูตัวบท เพื่อประเมินความเข้าใจเบื้องต้น ฟังครั้งที่สอง พร้อมดูตัวบทเพื่อจับจุดที่ฟังไม่ทันหรือไม่เข้าใจคำศัพท์ และฟังครั้งที่สามโดยไม่ดูตัวบทอีกครั้ง เพื่อพยายามจับใจความทั้งหมดให้ได้
- การจดบันทึก: ขณะฟัง ควรฝึกจดบันทึกใจความสำคัญ (Note-taking) เป็นคำสำคัญ (Keywords) หรือวลีสั้นๆ ซึ่งตรงกับทักษะที่จำเป็นสำหรับการสอบ IELTS Listening โดยเฉพาะ และฝึกสรุปใจความสั้นๆ หลังการฟังทุกครั้ง
เทคนิคที่สองซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการพูดและการออกเสียงไปพร้อมกันอย่างรวดเร็ว คือ เทคนิค “Shadowing” (การฝึกพูดตามแบบทันทีทันใด)
- การเลือกแบบอย่างที่ดี: คัดเลือกคลิปเสียงหรือวิดีโอของเจ้าของภาษาที่มีการออกเสียงชัดเจน พูดในจังหวะที่พอเหมาะ ไม่เร็วเกินไป และเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป ผู้เริ่มฝึกอาจเลือกคลิปที่มี Script ให้อ่านตามได้
- การพูดตามอย่างมีสติ: เปิดฟังเสียงต้นแบบ พยายามพูดตามออกมาดังๆ ทันทีที่ได้ยินโดยพยายามเลียนแบบทั้ง เสียง (Pronunciation), จังหวะ (Rhythm), น้ำเสียง (Intonation) และความรู้สึก (Emotion) ในประโยคนั้นๆ แรกๆ อาจต้องหยุดและเริ่มใหม่บ่อยครั้ง นับเป็นเรื่องปกติ
- การฝึกเป็นประจำ: แนะนำให้ใช้เวลาวันละเพียง 10-15 นาที อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ มากกว่าฝึกครั้งละนานๆ เป็นครั้งคราว การฝึกซ้ำๆ ช่วยให้ปากและลิ้นคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวใหม่ๆ
การนำเทคนิคทั้งสองมาใช้ร่วมกันจะช่วยเสริมพลังซึ่งกันและกัน การฟังเชิงรุก ช่วยสร้างฐานความเข้าใจที่ดีทั้งคำศัพท์ และโครงสร้างภาษาในบริบทที่หลากหลาย ทำให้ได้ยินและคุ้นเคยกับ “เสียง” ที่ถูกต้องของภาษา ในขณะที่ เทคนิค Shadowing ช่วยเปลี่ยนการรับรู้นั้นมาเป็นการปฏิบัติจริง เสริมสร้างความมั่นใจ ความคล่องแคล่ว และพัฒนากล้ามเนื้อในการออกเสียงให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษามากขึ้น
ผู้ที่มุ่งมั่นสอบ IELTS โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการคะแนนสูง (Band 7+) มักพบว่าเทคนิคทั้งสองนี้มีส่วนอย่างมากต่อความสำเร็จ ผลสำรวจล่าสุดจากผู้สอบ IELTS จาก British Council ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนหนึ่งระบุว่า ผู้ที่ฝึกฝน ทักษะการฟังเชิงลึกและการพูดตามอย่างมีระบบ เป็นประจำอย่างน้อย 4 สัปดาห์ขึ้นไป มีแนวโน้มที่จะรู้สึกมั่นใจและทำคะแนนในพาร์ท Speaking ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยอ้างถึงความคล่องแคล่ว (Fluency) และการออกเสียง (Pronunciation) เป็นปัจจัยหลัก
ด้วยความสม่ำเสมอและการเลือกแหล่งข้อมูลฝึกฟังที่เหมาะสม เทคนิคทั้ง 2 ประการที่กล่าวมานี้ สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการก้าวข้ามอุปสรรคด้านทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษสำหรับการสอบ IELTS ได้อย่างแน่นอน ความสำเร็จเริ่มต้นที่การลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้