ปัจจุบันทักษะการเขียนถือเป็นสิ่งสำคัญในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการเรียน การทำงาน และการสื่อสารทั่วไป บางคนอาจสงสัยว่าจำเป็นต้องลงคอร์สเรียนราคาแพงถึงจะพัฒนาทักษะนี้ได้หรือไม่ คำตอบคือไม่เสมอไป เพราะการฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างถูกวิธีก็สามารถทำให้คุณเก่งขึ้นได้เช่นกัน หากมีวินัยและเข้าใจแนวทางที่เหมาะสม
1. หัดเขียนทุกวันให้เป็นนิสัย
กุญแจสำคัญของการพัฒนาทักษะเขียนคือความสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องเขียนยาว ทุกครั้ง เริ่มต้นเพียงวันละ 10-15 นาทีก็เพียงพอ หาเวลาในแต่ละวันให้เป็นเวลา “เขียน” โดยเฉพาะ อาจเป็นสมุดบันทึกประจำวัน การเล่าเรื่องสั้นๆ บทกวี หรือแม้แต่การสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้มาในวันนั้น การที่มือได้สัมผัสกับตัวหนังสือเป็นประจำจะช่วยให้เกิดความคล่องแคล่วในการเรียบเรียงความคิดและเลือกใช้ถ้อยคำได้ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. อ่านแล้ววิเคราะห์ให้แตกฉาน
การอ่านถือเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีในการเขียน อ่านอย่างมีสติ ไม่ใช่แค่ผ่านตาไปเรื่อยๆ เลือกอ่านงานเขียนหลากหลายประเภท ทั้งบทความ ข่าว นวนิยาย เรียงความ หรือแม้แต่โพสต์โซเชียลมีเดียคุณภาพ สังเกตว่าเขาเปิดเรื่อง ดำเนินเรื่อง และปิดเรื่องอย่างไร ดูโครงสร้างประโยค การใช้คำเชื่อม การเลือกใช้คำศัพท์ และโทนเสียงในการเล่าเรื่อง การได้เห็นเทคนิคที่หลากหลายจะช่วยเพิ่มคลังแสงในการเขียนของคุณได้มหาศาล
3. ค้นหาและเรียนรู้จาก “Feedback”
การพัฒนาจริงๆ ย่อมต้องการการทบทวน หาข้อเสนอแนะอย่างเป็นกลาง ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเสมอไป คุณอาจขอให้เพื่อนที่ไว้ใจได้หรือคนในครอบครัวที่มีทักษะการสื่อสารดีๆ อ่านผลงานและแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา หรืออีกวิธีที่มีประสิทธิภาพคือการเว้นวรรคงานเขียนสัก 1-2 วันแล้วค่อยกลับมาอ่านทบทวนเองด้วยสายตาที่มองหาจุดบกพร่องเพื่อแก้ไข สิ่งที่ควรถามตัวเองคือส่วนไหนที่อ่านแล้วรู้สึกลำบาก สับสน หรือไม่ต่อเนื่อง
4. คัดลอกเลียนแบบต้นแบบ (Imitation)
เทคนิคคลาสสิกที่นักเขียนมืออาชีพหลายคนใช้คือการเริ่มจากเลียนแบบงานของต้นแบบที่ชื่นชอบ คัดลอกข้อความหรือบทความที่ประทับใจ ด้วยลายมือตนเอง ไม่ใช่แค่พิมพ์ กระบวนการนี้จะช่วยให้สมองซึมซับรูปแบบประโยค จังหวะการเล่าเรื่อง และการใช้ภาษาแบบไม่รู้ตัว หลังจากนั้น ลองเขียนเนื้อหาในแบบของคุณเองโดยใช้โครงสร้างหรือเทคนิคที่คุณเพิ่งคัดลอกมา สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ “กลไก” งานเขียนชั้นดีอย่างลึกซึ้ง
5. ใช้ทรัพยากรออนไลน์ฟรีที่มีอยู่มากมาย
ปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลดีๆ ที่เข้าถึงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลที่สามารถสนับสนุนการเรียนรู้นี้ได้ สืบค้นเนื้อหาเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์พื้นฐาน ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ภาษาไทย เคล็ดลับการเรียบเรียงประโยค การใช้คำเชื่อมที่ถูกต้อง หรือแม้แต่รูปแบบการเขียนประเภทต่างๆ เช่น รายงาน บทความสั้น หรือการเล่าเรื่อง บทเรียนสั้นๆ หรือบล็อกเหล่านี้ให้ความรู้ที่ตรงจุด แม้จะไม่มีการลงทะเบียนเรียนเป็นคอร์ส
สรุป: การฝึกฝนคือหัวใจสำคัญ
การจะเก่งการเขียนไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่คือ ทักษะที่ฝึกได้และต้องใช้ความเพียร วิธีหัดเขียนด้วยตัวเองทั้ง 5 วิธีนี้ต่างมุ่งเน้นที่การลงมือทำอย่างต่อเนื่อง การเรียนรู้จากตัวอย่างรอบตัว การเปิดรับข้อเสนอแนะ และการใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้ฟรีที่มีอยู่มากมาย เพียงเริ่มต้นวันนี้ ไม่รีรอให้พร้อมสมบูรณ์แบบ เพราะการเริ่มต้นและทำให้สม่ำเสมอนั่นแหละที่จะพาคุณไปสู่การพัฒนาทักษะการเขียนอย่างแท้จริงได้ทุกที่แม้อยู่ในบ้านของคุณเอง