การเลือกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของผู้เรียนในปัจจุบัน ด้วยทางเลือกมากมายในตลาด Wall Street English และ Pantip English Course มักถูกนำมาเปรียบเทียบกันบ่อยครั้ง บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลโดยสังเขปเพื่อช่วยในการพิจารณา
รูปแบบการเรียนการสอน
คอร์สจาก Wall Street English มักเน้นการเรียนแบบผสมผสาน (Blended Learning) โดยมีจุดเด่นที่:
- ระบบการเรียนออนไลน์และออฟไลน์: ผู้เรียนสามารถทบทวนบทเรียนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างยืดหยุ่น และมีเซสชั่นกับครูผู้สอนเพื่อฝึกพูดจริงในศูนย์ฯ
- การเน้นทักษะการสื่อสาร: โครงสร้างหลักสูตรมักออกแบบมาเพื่อให้ผู้เรียนมั่นใจในการสนทนาภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในบริบทธุรกิจ
- ความเข้มข้นและความเป็นระบบ: หลักสูตรมักมีโครงสร้างขั้นตอนชัดเจน แบ่งระดับตามความสามารถของผู้เรียน
ขณะที่ Pantip English Course ซึ่งรวมถึงคอร์สจากสถาบันและติวเตอร์ที่ลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Pantip มักมีความหลากหลายสูงมาก จุดสังเกตหลักคือ:
- ความหลากหลายของสไตล์การสอน: มีตั้งแต่คอร์สแบบกลุ่มในสถาบัน คอร์สส่วนตัวกับติวเตอร์ คอร์สออนไลน์เฉพาะทักษะ (แกรมม่า สนทนา สอบ TOEIC/IELTS) ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกได้ตรงตามความต้องการเฉพาะ
- ความยืดหยุ่นในการจัดตารางเรียน: โดยเฉพาะคอร์สกับติวเตอร์ส่วนตัวหรือคอร์สออนไลน์ มักปรับเปลี่ยนเวลาได้ง่ายกว่า
- ราคาที่มีหลากหลายระดับ: ครอบคลุมตั้งแต่คอร์สราคาประหยัดจนถึงระดับพรีเมียม
คุณวุฒิครูผู้สอนและการรับรอง
Wall Street English มีระบบการคัดเลือกและการฝึกอบรมครูผู้สอนตามมาตรฐานของเครือข่ายระดับโลก โดยทั่วไปครูผู้สอนจะต้องมีวุฒิปริญญาตรีและประกาศนียบัตรการสอนภาษาอังกฤษ (เช่น TEFL/TESOL/CELTA) และหลักสูตรอาจได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านการศึกษาระดับนานาชาติ
Pantip English Course คุณวุฒิของผู้สอนจะขึ้นอยู่กับสถาบันหรือติวเตอร์แต่ละคนโดยตรง มีตั้งแต่ครูเจ้าของภาษา (Native Speakers) ที่มีวุฒิและประสบการณ์ ไปจนถึงติวเตอร์ชาวไทยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือจึงสำคัญมาก
ค่าใช้จ่ายและระยะเวลา
โดยทั่วไป Wall Street English มักมีราคาในระดับสูงถึงกลางระดับบน เน้นการลงทุนระยะยาวเพื่อผลลัพธ์ครอบคลุมทุกทักษะ
Pantip English Course มีช่วงราคาที่กว้างกว่ามาก ผู้เรียนสามารถหาได้ตั้งแต่คอร์สระยะสั้นเฉพาะจุดประสงค์ในราคาไม่สูงจนถึงหลักสูตรระยะยาวที่มีราคาใกล้เคียงกัน
ความเหมาะสมกับผู้เรียน
- Wall Street English: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการระบบการเรียนที่มีโครงสร้างชัดเจน มีสภาพแวดล้อมเฉพาะในการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายด้านการสื่อสารโดยเฉพาะในงานอาชีพและพร้อมลงทุน
- Pantip English Course: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง เลือกเรียนเฉพาะทักษะที่ต้องการ เน้นแก้ไขจุดอ่อนเฉพาะจุด มีงบประมาณจำกัด หรือต้องการลองเรียนกับติวเตอร์ที่มีสไตล์การสอนแตกต่างกันก่อนตัดสินใจ
บทสรุป
การตัดสินใจว่า Wall Street English หรือทางเลือกบน Pantip English Course ดีกว่ากันนั้นไม่มีการตอบแบบขาว-ดำ เพราะความต้องการของผู้เรียนแต่ละคนต่างกัน
ข้อเสนอของ Wall Street English คือระบบการเรียนที่ออกแบบมาอย่างเป็นขั้นตอนและบูรณาการ สภาพแวดล้อมที่กระตุ้นการพูด การวัดผลที่ชัดเจน และมาตรฐานที่เชื่อถือได้ในระดับสากล
ข้อเสนอของ Pantip English Course คือความหลากหลายและความยืดหยุ่น ทั้งในด้านเนื้อหา รูปแบบการสอน สถานที่เรียน เวลา และที่สำคัญคืองบประมาณ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกได้ตรงความต้องการมากที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การประเมินความต้องการ เป้าหมาย งบประมาณ เวลา และสไตล์การเรียนรู้ของตนเองให้ชัดเจน พร้อมทั้ง ทดลองเรียน หรือขอข้อมูลรายละเอียดอย่างลึกซึ้งจากทั้งสองทางเลือก (หลักสูตรทดลองเบื้องต้น) ก่อนจึงจะสามารถเลือกสถาบันหรือคอร์สที่ “ดีกว่า” สำหรับคุณโดยเฉพาะ ได้อย่างแท้จริง