ทักษะการเขียนเป็นสิ่งสำคัญไม่เพียงแต่ในการเรียนหรือการทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวันอีกด้วย ผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะนี้แบบเฉพาะตัวอาจมองหาคอร์สเรียนเขียนแบบตัวต่อตัว ซึ่งสามารถช่วยแก้ไขจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งได้เป็นอย่างดี คำถามคือแล้วควรเริ่มต้นอย่างไรดี?
วางแผนก่อนลงมือหาคอร์สเรียน
การกระโจนเข้าหาคอร์สเรียนทันทีโดยไม่เตรียมตัวอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ขั้นตอนเบื้องต้นที่ควรพิจารณาได้แก่
- ประเมินระดับทักษะปัจจุบันของตนอย่างตรงไปตรงมา: ปัญหาหลักที่มักพบคืออะไร? ต้องการพัฒนาเรื่องโครงสร้างประโยค, คำศัพท์, การเรียบเรียงความคิด, หรือสไตล์การเขียน?
- กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้: ต้องการเขียนเพื่อสอบ, เพื่อทำงาน, เขียนเชิงวิชาการ, เขียนเนื้อหาออนไลน์ (Content), หรือเขียนสร้างสรรค์? เป้าหมายจะช่วยโฟกัสเนื้อหาเรียนได้แม่นยำ
- สำรวจรูปแบบการเรียนที่เหมาะกับตนเอง: ชอบเรียนออนไลน์หรือพบปะตัวต่อตัว? ช่วงเวลาใดที่สะดวก และต้องการเรียนสัปดาห์ละกี่ชั่วโมง? งบประมาณที่มีคือเท่าไหร่?
ข้อมูลเหล่านี้จะกลายเป็นเกณฑ์สำคัญในการคัดเลือกติวเตอร์และคอร์สเรียนที่ตอบโจทย์
เคล็ดลับ 5 ประการ ช่วยให้การเขียน “เป๊ะเว่อร์” ขึ้นกว่าเดิม
ไม่ว่ากำลังเรียนหรือฝึกฝนด้วยตัวเอง การนำเคล็ดลับต่อไปนี้ไปปฏิบัติสามารถยกระดับงานเขียนได้อย่างเห็นผล
- รู้จักผู้อ่านและวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนก่อนเขียนเสมอ: การถามตัวเองว่า “เขียนให้ใครอ่าน?” และ “เขียนไปเพื่ออะไร?” ช่วยกำหนดทิศทางโทนเสียงและเลือกรายละเอียดที่จำเป็นต้องใส่ได้อย่างแม่นยำ ทำให้งานเขียนตรงจุด ไม่วกวน
- ใช้โครงสร้างงานเขียนเป็นกระดูกสันหลัง: ไม่ควรเริ่มเขียนโดยปราศจากโครงร่างคร่าวๆ (Outline) โครงสร้างพื้นฐานประกอบด้วย บทนำ (กล่าวถึงประเด็นหลัก), เนื้อหา (ขยายความคิด, ยกตัวอย่าง, ให้ข้อมูล), และสรุป (เรียบเรียงใจความสำคัญหรือฝากข้อคิด) ทำให้การนำเสนอข้อมูลเป็นระบบ น่าติดตาม
- เรียบเรียงประโยคให้กระชับ ชัดเจน ถูกต้อง: หลีกเลี่ยงประโยคที่ซับซ้อนเกินไปหรือยาวเหยียดโดยไม่จำเป็น ใช้คำที่ตรงความหมายและเหมาะสมกับบริบท ตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกดคำอย่างเคร่งครัด ความถูกต้องเป็นรากฐานของความน่าเชื่อถือ
- เชื่อมโยงความคิดระหว่างย่อหน้าให้ลื่นไหล: การใช้คำหรือวลีเชื่อม (Transition Words) เช่น “ดังนั้น”, “อย่างไรก็ตาม”, “ยกตัวอย่างเช่น”, “นอกจากนี้” ฯลฯ ช่วยผู้อ่านตามความคิดจากย่อหน้าก่อนหน้าไปยังย่อหน้าถัดไปอย่างราบรื่น ป้องกันไม่ให้งานเขียนขาดตอน
- ทวนและปรับปรุงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ห้ามข้าม: เมื่อเขียนเสร็จสิ้น หยุดพักสักระยะแล้วจึงกลับมาอ่านทวนด้วยมุมมองใหม่ ลองอ่านออกเสียงจะช่วยหาจุดขัดเขินได้ง่ายขึ้น พิจารณาว่าสาระสำคัญครบถ้วนหรือไม่? เรียบเรียงลำดับความคิดดีแล้วหรือยัง? มีคำหรือประโยคไหนที่ตัดทิ้งหรือใช้คำอื่นแทนได้ดีกว่า? ควรขอรับฟังข้อเสนอแนะส่วนตัวจากติวเตอร์หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือด้วย
เคล็ดลับทั้ง 5 ข้อนี้ไม่เพียงแต่ใช้ได้ผลในการฝึกฝนส่วนตัวเท่านั้น หากยังเป็นแนวทางที่ติวเตอร์ส่วนใหญ่นำมาใช้ในการออกแบบบทเรียนแบบตัวต่อตัว เพื่อมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาและพัฒนาตรงจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การเริ่มต้นเรียนเขียนแบบตัวต่อตัวถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารที่ทรงพลัง การเตรียมความพร้อมด้วยการประเมินตนเองและตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนจะช่วยให้พบคอร์สและติวเตอร์ที่เหมาะสม ส่วนการนำเคล็ดลับการเขียนทั้ง 5 ข้อไปปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอระหว่างเรียนและหลังจบคอร์ส ย่อมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ทักษะการเขียนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด คงความต่อเนื่องและความตั้งใจ เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ