ในยุคที่ภาษาอังกฤษกลายเป็นทักษะสำคัญสำหรับทั้งการเรียนและการทำงาน แอปพลิเคชันเรียนภาษาถือเป็นตัวช่วยชั้นดีสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าการจะใช้ให้ได้ผลดีที่สุดนั้นจำเป็นต้องมีเทคนิค นี่คือ 5 เทคนิคที่ผู้ใช้งานทั่วไปบนเว็บบอร์ดอย่าง Pantip มักแนะนำกัน เพื่อให้เก่งเร็วจากการใช้แอปเรียนภาษา
เทคนิคที่ 1: ทำสม่ำเสมอ เน้นย้ำที่คุณภาพไม่ใช่ปริมาณ
การยัดเยียดเนื้อหามากเกินไปในครั้งเดียวอาจทำให้ท้อได้ง่ายเทคนิคที่ยั่งยืนกว่าคือ การเรียนสั้นๆ แต่สม่ำเสมอทุกวัน เช่น วันละ 20-30 นาที เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้แอปเพราะมักออกแบบบทเรียนเป็นตอนสั้นๆ จัดการง่าย ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน เช่น เรียนบทใหม่ 1 บท ทบทวนศัพท์ 10 คำ หรือทำแบบฝึกหัดท้ายบทให้ครบ การทำติดต่อกันจะสร้างแรงกระตุ้นและความคุ้นเคยมากกว่าการเรียนสัปดาห์ละครั้งครั้งละหลายชั่วโมง
เทคนิคที่ 2: ฝึกพูดตาม (Shadowing) แบบไม่ต้องเขิน
หลายแอปจะมีฟีเจอร์ฝึกการออกเสียงหรือบทสนทนาให้ผู้ใช้ได้พูดตาม ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวผิด พูดตามบทสนทนาที่ได้ยินทันที พยายามเลียนแบบน้ำเสียงและจังหวะการพูดให้ใกล้เคียงที่สุด การได้ยินเสียงตัวเองในตอนแรกอาจรู้สึกแปลกๆ แต่นี่คือวิธีที่ดีมากๆ ที่จะช่วยปรับการออกเสียงและเพิ่มความมั่นใจให้กับการพูดโดยอัตโนมัติ ฝึกบ่อยๆ จะทำให้ลิ้นคุ้นเคยกับเสียงภาษาอังกฤษ
เทคนิคที่ 3: เรียนรู้ศัพท์ในบริบทจริง
การท่องศัพท์เป็นคำๆ ตามลำพังมักไม่ค่อยได้ผลในระยะยาว ผู้ใช้แอปหลายคนบน Pantip แนะนำว่า ควรจดบันทึกและเรียนรู้คำศัพท์พร้อมกับตัวอย่างประโยค ที่โผล่มาในบทเรียนของแอป หรือแม้กระทั่งจากแหล่งอื่นๆ นอกแอป เช่น ข่าว ซีรีส์ หรือโพสต์ในโซเชียลมีเดีย เมื่อเรียนศัพท์ใหม่ผ่านแอป ลองนำศัพท์นั้นๆ ไปแต่งประโยคเองสัก 2-3 ประโยค การที่ได้เห็นคำศัพท์ถูกใช้งานจริงๆ ในสถานการณ์ต่างๆ จะช่วยให้จำได้แม่นและนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้น
เทคนิคที่ 4: ใช้จุดอ่อนเป็นโอกาสพัฒนา
แอปเรียนภาษาส่วนใหญ่จะมีระบบบันทึกความคืบหน้าและชี้จุดที่ผู้ใช้มักทำผิดพลาด วิเคราะห์ประเด็นที่เราทำบ่อยๆ ไม่ถูกต้อง เช่น บางคนติดหลงรูปประโยคในอดีต (Past Tense) บางคนสับสนเรื่อง Article (a, an, the) หรือบางคนติดออกเสียงคำบางคำผิดๆ นำจุดอ่อนเหล่านี้มาเป็นเป้าหมายหลักในการฝึกฝน ทบทวนบทเรียนเก่าๆ ในส่วนนั้น หรือค้นหาตัวอย่างเพิ่มเติมในแอปหรือจากแหล่งเรียนรู้ในอินเทอร์เน็ต การเจาะจงแก้จุดที่อ่อนแอช่วยให้พัฒนาภาษาอังกฤษได้รวดเร็วเป็นก้าวใหญ่ๆ
เทคนิคที่ 5: เชื่อมโยงกับการใช้งานจริงนอกแอป
อย่าจำกัดการเรียนรู้ไว้แค่ในแอปพลิเคชันเท่านั้น ผู้ใช้งานที่ประสบความสำเร็จมักจะนำสิ่งที่เรียนในแอปไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวันทันที เช่น ดูหนัง/ซีรีส์ภาษาอังกฤษแบบซับไตเติ้ล พยายามฟังและอ่านตาม หากเจอคำศัพท์ใหม่ที่เพิ่งเรียนได้ที่ใดที่หนึ่งให้รู้สึกตื่นเต้นหรือพยายามนึกขึ้นมาได้ หรือลองตั้งค่าโทรศัพท์บางส่วนเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อเจอบทสนทนาที่น่าสนใจในแอป ลองนำไปปรับใช้ในการเขียนแสดงความเห็นบนเว็บบอร์ดอย่าง Pantip หรือในการแชทกับเพื่อน การเชื่อมโยงนี้จะเปลี่ยนความรู้ให้กลายเป็นทักษะที่ใช้งานได้จริง
เทคนิคทั้ง 5 ข้อนี้เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมและเห็นผลจริงในวงกว้างสำหรับผู้ใช้แอปเรียนภาษา การสอดแทรกการเรียนในกิจวัตรประจำวัน ใช้ฟีเจอร์ของแอปอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเชื่อมโยงกับสถานการณ์นอกแอปคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ท้ายที่สุด ความสม่ำเสมอ ความพยายาม และการประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเครื่องมือใดก็เป็นเพียงตัวช่วยที่จะพาเราไปสู่เป้าหมายได้หากเริ่มต้นลงมือทำอย่างจริงจัง