สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่ผมไปลองใช้งานเจ้าแอปที่ชื่อว่า Palfish มา จริงๆ ก็เห็นคนพูดถึงกันมาสักพักแล้วนะ ว่าเป็นแอปสำหรับสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็เน้นสอนเด็กๆ ชาวจีน ผมเองก็ว่างๆ อยู่ช่วงนั้น บวกกับอยากหารายได้เสริม เลยตัดสินใจลองดูสักตั้ง
เริ่มต้นกับการสมัคร
ขั้นตอนแรกเลย ผมก็ไปดาวน์โหลดแอป Palfish มาติดตั้งในมือถือ การสมัครก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากครับ กรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไป อัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน จำได้ว่ามีให้ถ่ายรูปบัตรประชาชน แล้วก็วุฒิการศึกษา ถ้ามีพวกใบรับรองการสอนภาษาอังกฤษอย่าง TEFL/TESOL ก็จะดีมาก แต่ผมไม่มีหรอกนะ อาศัยว่าพอสื่อสารได้ก็ลองดู
หลังจากส่งเอกสารไปแล้วเนี่ย ก็ต้องรอให้ทางโน้นเค้าตรวจสอบคุณสมบัติของเราก่อน ระหว่างนั้นก็ศึกษาข้อมูลในแอปไปพลางๆ ดูว่าเค้าสอนกันยังไง มีคอร์สอะไรบ้าง
ขั้นตอนการเตรียมตัวเป็นครู
พอเอกสารผ่านแล้วเนี่ย มันยังสอนไม่ได้ทันทีนะ เราต้องทำโปรไฟล์ของเราให้น่าสนใจ ต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองสั้นๆ เป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็จะมีให้ทำเดโม่สอน หรือบางทีก็เป็นข้อสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษของเรานิดหน่อย ตรงนี้แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะ เพราะต้องพยายามพูดให้ชัดเจน ออกเสียงให้ถูก ต้องทำเหมือนสอนเด็กจริงๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงหน้า
ผมก็พยายามทำให้ดีที่สุดครับ หาข้อมูล ดูตัวอย่างจากครูคนอื่นๆ แล้วก็ลองซ้อมพูดหน้ากระจกหลายรอบเลย กว่าจะกล้าอัดจริง พอส่งไปแล้วก็รอผลอีกรอบ
เริ่มรับงานสอนจริง
ในที่สุดก็ผ่านครับ! ดีใจมาก ตอนนั้นก็เริ่มมีตารางเวลาให้เราเลือกเปิดสอนได้ เราต้องกำหนดเวลาที่เราสะดวกสอน แล้วผู้ปกครองหรือนักเรียนก็จะมาเลือกจองคลาสเรียนกับเราเอง ช่วงแรกๆ นี่ยอมรับเลยว่าค่อนข้างเงียบเหงา นักเรียนยังไม่ค่อยมีหรอกครับ อาจจะเพราะโปรไฟล์เรายังใหม่ ความน่าเชื่อถือยังน้อย
สิ่งที่เจอในการสอนจริง:
- เด็กๆ น่ารัก (ส่วนใหญ่): เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ก็น่ารักดีครับ ตั้งใจเรียน พยายามพูดตามที่เราสอน แต่ก็มีบ้างที่ซนมากๆ หรือไม่ค่อยให้ความร่วมมือ อันนี้ก็ต้องใช้ทักษะในการจัดการชั้นเรียนพอสมควรเลย
- ปัญหาทางเทคนิค: เรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตนี่สำคัญมากครับ บางทีเน็ตเราดี แต่เน็ตทางฝั่งนักเรียนไม่ดีก็มี สอนๆ ไปเสียงขาดๆ หายๆ ภาพค้างบ้างก็เคยเจอ ต้องรีสตาร์ทแอปกันใหม่ก็มี
- สื่อการสอน: Palfish เค้าจะมีสื่อการสอนสำเร็จรูปมาให้เลยครับ เป็นสไลด์ เป็นเกม เป็นเพลง เราก็สอนตามนั้นไป ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แต่บางทีก็รู้สึกว่ามันซ้ำๆ เดิมๆ ไปหน่อย
- การให้คะแนนและฟีดแบ็ก: หลังสอนเสร็จทุกครั้ง เราต้องให้คะแนนนักเรียน แล้วก็เขียนฟีดแบ็กสั้นๆ ส่งให้ผู้ปกครองทราบ อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานครับ
เรื่องรายได้และการรับเงิน
เรื่องสำคัญเลยคือรายได้ มันก็ไม่ได้เยอะมากมายอะไรขนาดนั้นครับ คิดเป็นรายนาทีหรือรายคลาส แล้วแต่ประเภทคลาสที่เราสอน สะสมไปเรื่อยๆ พอถึงยอดที่กำหนดก็สามารถถอนเงินออกมาได้ แต่ก็มีหักค่าธรรมเนียมอะไรบ้างนิดหน่อยตามระเบียบของเขา
ผมทำอยู่ได้สักพักใหญ่ๆ ก็รู้สึกว่ามันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ได้ฝึกภาษา ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แต่ถ้าจะให้ยึดเป็นอาชีพหลักเลยสำหรับผมอาจจะยังไม่ไหว เพราะรายได้มันไม่แน่นอนเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียนที่มาจองคลาสเราด้วย
สรุปจากประสบการณ์ส่วนตัว
ถ้าถามว่า Palfish ดีไหม ผมว่ามันก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับคนที่อยากสอนภาษาออนไลน์ หรืออยากหารายได้เสริม ข้อดีคือมันค่อนข้างยืดหยุ่นเรื่องเวลา เราจัดการเองได้ ทำจากที่บ้านได้เลย ไม่ต้องเดินทาง แต่ก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจกับเรื่องจุกจิกต่างๆ ที่อาจจะเจอ เช่น ปัญหาเทคนิค นักเรียนงอแง หรือช่วงที่ไม่มีนักเรียนเลยก็มี
ใครที่สนใจอยากลอง ผมแนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ก่อนครับ ลองดูรีวิวจากคนอื่นๆ ประกอบด้วย แล้วก็เตรียมความพร้อมของตัวเอง ทั้งเรื่องภาษา ทักษะการสอน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น ถ้าใจรักการสอนเด็ก ก็น่าจะสนุกกับมันได้ไม่ยากครับ
นี่ก็เป็นประสบการณ์ทั้งหมดที่ผมไปลอง Palfish มา หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาข้อมูลอยู่นะครับ ลองเอาไปพิจารณากันดูครับผม