ก็คือว่าช่วงนั้นน่ะ งานประจำมันก็มีช่องว่างๆ นิดหน่อย แล้วก็เห็นเพื่อนในเฟซมันโพสต์เรื่อง PalFish Thailand บอกว่าเป็นแอปสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ ชาวจีน ทำจากบ้านได้เลย เออ ก็น่าสนใจดีนะ คิดว่าลองดูหน่อยเผื่อเป็นรายได้เสริม ไม่ได้คิดอะไรมากตอนแรก
ขั้นตอนแรกเลยนะ คือการสมัคร โหย ตอนแรกนึกว่าง่ายๆ กรอกๆ ข้อมูล ส่งๆ ไปก็จบ ที่ไหนได้ มันมีหลายด่านเหมือนกัน ต้องเตรียมเอกสารยืนยันตัวตน ใบรับรองการสอน (ถ้ามีก็จะดี) แล้วก็ที่พีคสุดคือต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็มีเดโม่สอนสั้นๆ ด้วย ตอนนั้นก็แบบ… เอาไงดีวะ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ก็ต้องซ้อมหน้ากระจกอยู่หลายรอบเหมือนกันกว่าจะกล้าอัดจริงจัง ฮ่าๆๆ แต่ก็เออ ผ่านมาได้แหละ
พอได้เข้ามาในระบบแล้วเป็นไงบ้าง?
พออนุมัติแล้ว ก็เริ่มมีคลาสเข้ามาให้เลือกกดรับ หรือบางทีก็มีผู้ปกครองจองคลาสเราโดยตรงเลย ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กๆ จนถึงประถมต้นๆ นี่แหละ เนื้อหาเขาก็จะมีเตรียมไว้ให้ในระบบอยู่แล้ว เป็นสไลด์ภาพการ์ตูนสีสันสดใส มีเพลง มีเกมให้เล่นกับเด็กๆ เราก็แค่ดำเนินตามนั้นไป พยายามพูดช้าๆ ชัดๆ ใช้ท่าทางเยอะๆ หน่อยให้เด็กเข้าใจ
ช่วงแรกๆ ก็ตื่นเต้นนะ กลัวพูดผิดกลัวเด็กไม่สนุก แต่พอสอนไปซักพักก็เริ่มชินเอง เด็กบางคนก็น่ารักมากกก ตั้งใจฟัง พยายามพูดตาม เห็นแล้วก็ชื่นใจ แต่บางคนนี่ก็คือ… พลังงานล้านแปด วิ่งไปวิ่งมา ไม่อยู่นิ่งเลย เราก็ต้องงัดทุกกลยุทธ์มาหลอกล่อ ทั้งทำเสียงเล็กเสียงน้อย ทั้งทำท่าตลกๆ บางทีสอนเสร็จคอแหบเลยจ้า
เรื่องที่ต้องปรับตัวก็มีหลายอย่างนะ:
- เวลา: ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเย็นๆ หลังเลิกเรียนของเด็กที่นู่น หรือไม่ก็วันเสาร์อาทิตย์เต็มวันเลย ถ้าอยากได้ชั่วโมงเยอะๆ ก็ต้องยอมสละเวลาส่วนตัวช่วงนั้นไป
- อินเทอร์เน็ต: อันนี้สำคัญมากกก เน็ตต้องแรง ต้องเสถียร ห้ามหลุดเด็ดขาด เพราะถ้ามีปัญหาระหว่างสอนนี่เรื่องยาวเลย
- ความอดทน: กับเด็กเล็กอะเนอะ ต้องใจเย็นมากๆ บางทีเขาก็งอแง ไม่ยอมเรียน เราก็ต้องค่อยๆ ตะล่อมไป
- การเตรียมตัว: ถึงจะมีสไลด์ให้ แต่เราก็ควรดูก่อนสอนทุกครั้งนะ ว่าวันนี้จะสอนอะไร มีกิจกรรมอะไรบ้าง จะได้ไม่ติดขัด
ถามว่าเหนื่อยมั้ย? บอกเลยว่าเหนื่อยเอาเรื่อง โดยเฉพาะวันที่คลาสติดๆ กันหลายชั่วโมง แต่พอเห็นยอดเงินเข้ามา (ถึงจะต้องรอรอบจ่ายก็เถอะ) มันก็พอให้หายเหนื่อยได้บ้างนิดนึงแหละ คิดซะว่าทำงานพิเศษ
แล้วทำต่อนานไหม?
ก็ทำอยู่พักใหญ่ๆ เลยนะ หลายเดือนเหมือนกัน ก็ได้ประสบการณ์เยอะดี ได้ฝึกภาษาตัวเองไปด้วยในตัว แต่หลังๆ มานี่ คลาสเริ่มหายากขึ้นนิดนึง อาจจะเพราะมีครูใหม่ๆ เข้ามาเยอะด้วยมั้ง การแข่งขันมันก็สูงขึ้นเป็นธรรมดา แล้วพอดีกับว่ามีงานอื่นเข้ามาให้โฟกัสมากกว่า ก็เลยค่อยๆ ลดชั่วโมงลง จนตอนนี้ก็ไม่ได้สอนประจำแล้ว นานๆ ทีถ้าว่างจริงๆ หรือมีแจ้งเตือนคลาสน่าสนใจเข้ามาก็อาจจะรับบ้าง
ถ้าถามว่าแนะนำมั้ย สำหรับคนที่อยากหารายได้เสริม มีเวลาว่างช่วงเย็นๆ หรือวันหยุด แล้วก็ชอบเด็กๆ ชอบสอนภาษาอังกฤษ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนะ แต่ก็ต้องเตรียมใจเรื่องความเหนื่อยกับความไม่แน่นอนของจำนวนคลาสไว้หน่อย มันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่บางคนโปรโมทว่านั่งสวยๆ ก็ได้เงิน มันต้องลงแรงลงใจพอสมควรเลยแหละ
สรุปคือ PalFish Thailand ก็เป็นประสบการณ์นึงที่ได้ลองทำมา ก็มีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ต้องปรับตัวเยอะ ใครสนใจก็ลองศึกษาข้อมูลดูดีๆ ก่อนตัดสินใจละกันนะ ของแบบนี้มันแล้วแต่คนจริงๆ บางคนอาจจะชอบมาก ทำเป็นอาชีพหลักได้เลยก็มี แต่สำหรับฉัน ก็ประมาณนี้แหละจ้า
