สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองเกี่ยวกับเรื่อง “palfish ราคา” เนี่ยแหละครับ คือตอนแรกผมก็สงสัยเหมือนหลายๆ คนนั่นแหละว่ามันคิดเรทยังไง สอนแล้วได้เท่าไหร่ คุ้มไหม บลาๆๆ ผมก็เลยลงมือค้นคว้า ทดลองสมัคร (เกือบจะสอนจริงจัง) เพื่อหาคำตอบด้วยตัวเองเลย
เริ่มจากความสงสัยล้วนๆ
คือผมเห็นเพื่อนหลายคนในโซเชียลแชร์ว่าสอนภาษาอังกฤษออนไลน์กับ PalFish บ้าง ได้เงินดีบ้าง อิสระบ้าง ผมก็แบบ เอ๊ะ มันยังไงกันแน่นะ ไอ้คำว่า “ราคาดี” ของแต่ละคนมันไม่เท่ากันนี่สิ ผมเลยตั้งธงไว้เลยว่าต้องรู้ให้ได้ว่าโครงสร้างรายได้มันเป็นยังไงกันแน่
ขั้นตอนแรกที่ผมทำก็คือการค้นหาข้อมูลเบื้องต้นครับ เข้าไปดูในเว็บไซต์ของ PalFish เอง (ถ้ามีส่วนของ Teacher นะ) แล้วก็พวกกลุ่มเฟซบุ๊กของครู PalFish ทั้งไทยและเทศ อ่านรีวิวตามบล็อกต่างๆ คือเก็บข้อมูลให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยครับ
ลงลึกไปอีกขั้นกับการสมัคร (เกือบจริง)
พอได้ข้อมูลมาประมาณนึง ผมก็ตัดสินใจลองสมัครเป็นครูดูเลยครับ อยากรู้ว่าขั้นตอนมันเป็นยังไง ต้องใช้อะไรบ้าง แล้วมันมีรายละเอียดเรื่องเรทค่าสอนบอกตรงไหน ตอนสมัครนี่ก็จะมีให้กรอกประวัติการศึกษา ประสบการณ์การสอน ใบเซอร์ต่างๆ (ถ้ามีพวก TEFL, TESOL ก็จะดีมาก) แล้วก็ต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวสั้นๆ ด้วย
ทีนี้พอเริ่มเข้าไปในระบบของเค้า (หลังจากผ่านการพิจารณาเบื้องต้น) ผมถึงเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นครับว่า “palfish ราคา” มันไม่ได้มีแค่ตัวเลขเดียวโดดๆ แต่มันมีหลายปัจจัยมากๆ ที่ส่งผลต่อรายได้ของเรา
- ประเภทของคลาสที่สอน: อันนี้สำคัญเลยครับ มันจะมีคลาสแบบ Freetalk ที่เรากำหนดราคาเองได้ (แต่ก็ต้องแข่งขันกับครูคนอื่น) กับคลาสแบบ Official Kids Course (OKC) ที่ทาง PalFish จะมีเรทกลางให้ ซึ่งเรท OKC เนี่ยส่วนใหญ่จะดีกว่า แต่ก็จะมีข้อกำหนดเรื่องคุณสมบัติครูที่เข้มงวดกว่า เช่น ต้องเป็น Native Speaker หรือมีสำเนียงดีมาก มีใบเซอร์เฉพาะทาง
- คุณสมบัติและประสบการณ์ของครู: แน่นอนว่าครูที่มีโปรไฟล์ดี มีใบรับรอง มีประสบการณ์สอนเยอะ ก็มีโอกาสได้เรทที่สูงกว่า หรือถูกนักเรียนเลือกมากกว่า
- คะแนนรีวิวและ Performance: หลังจากสอนไปแล้ว นักเรียนจะให้คะแนนเรา ถ้าได้คะแนนดี สอนสม่ำเสมอ ก็มีผลต่อการมองเห็นโปรไฟล์ของเรา และอาจจะมีโบนัสพิเศษให้ด้วย (อันนี้ผมอ่านเจอจากครูหลายๆ ท่าน)
- ชั่วโมงที่สอนและช่วงเวลา: บางช่วงเวลาที่เป็น Prime Time หรือช่วงที่นักเรียนมีความต้องการสูง ก็อาจจะมีผลต่อโอกาสในการได้นักเรียน หรือบางทีก็มีโปรโมชั่นพิเศษ
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ: อย่าลืมดูเรื่องการถอนเงินด้วยนะครับ ว่ามีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง ถอนผ่านช่องทางไหนได้บ้าง
สิ่งที่ผมค้นพบเกี่ยวกับ “ราคา”
หลังจากที่ผมลองสำรวจระบบ ลองคำนวณคร่าวๆ ดูแล้ว ก็พอจะสรุปได้ว่า:
สำหรับ Freetalk: เราตั้งราคาเองได้จริง แต่ถ้าตั้งสูงไปก็อาจจะไม่มีนักเรียน ถ้าตั้งต่ำไปก็อาจจะไม่คุ้มเหนื่อย ต้องหาจุดสมดุลดีๆ ครับ แล้วก็ต้องสร้างโปรไฟล์ให้น่าสนใจมากๆ เพื่อดึงดูดนักเรียน
สำหรับ Official Kids Course (OKC): อันนี้เรทค่อนข้างแน่นอนกว่า ทาง PalFish จะกำหนดมาให้เลย ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผมเห็นจะจ่ายเป็นรายนาที หรือต่อคลาส (เช่น 25 นาที) เรทที่ได้ยินมาก็มีตั้งแต่ไม่กี่ดอลลาร์ไปจนถึงสิบกว่าดอลลาร์ต่อชั่วโมง (แปลงเป็นเงินบาทก็ต้องดูอัตราแลกเปลี่ยนอีกที) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของเราจริงๆ ครับ ตอนผมลองใส่ข้อมูลแบบกลางๆ เข้าไป ระบบมันก็คำนวณเรทเริ่มต้นมาให้ดู ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่… อืม… ต้องสอนเยอะพอสมควรถึงจะเห็นเงินเป็นกอบเป็นกำ
ผมยังไม่ได้กด “เริ่มสอน” จริงจังนะครับ เพราะช่วงนั้นมีงานอื่นเข้ามาพอดี แต่จากการขุดคุ้ยข้อมูลทั้งหมด ผมว่า PalFish ก็เป็นอีกแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ แต่เรื่อง “ราคา” หรือรายได้เนี่ย มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวจริงๆ ครับ มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองล้วนๆ ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน และเลือกสอนประเภทไหน
หวังว่าประสบการณ์ที่ผมไปลองค้นๆ มานี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจเรื่อง “palfish ราคา” อยู่นะครับ ลองเอาข้อมูลที่ผมเจอไปประกอบการตัดสินใจดูได้เลยครับ! สำคัญที่สุดคือต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนเริ่มลงทุนลงแรงทำอะไรก็ตามครับผม