สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ ของผมเลยนะ ที่ได้ลองไปสมัครสอนกับ PalFish ดู เพราะเห็นคนพูดถึงกันเยอะมาก โดยเฉพาะในกลุ่มหาอาชีพเสริมอะไรพวกนี้ ว่ามันดีจริงไหม ได้เงินจริงหรือเปล่า ผมก็เป็นคนหนึ่งที่สงสัยแล้วก็อยากลองด้วยตัวเองเลย
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมลอง PalFish
คือช่วงนั้นผมมีเวลาว่างหลังเลิกงานประจำพอสมควร แล้วก็รู้สึกว่าอยากใช้ภาษาอังกฤษที่เราพอมีติดตัวอยู่บ้างให้มันเกิดประโยชน์มากกว่าแค่ดูหนังฟังเพลง เลยเริ่มมองหาช่องทางว่าจะทำอะไรดี ตอนแรกก็ดูพวกรับแปลเอกสารบ้าง เขียนบทความบ้าง แต่ก็ยังไม่ค่อยคลิกเท่าไหร่ จนไปเจอคนรีวิว PalFish ในกลุ่มเฟซบุ๊กนี่แหละ เห็นเขาบอกว่าสอนเด็กๆ สนุกดี ได้เงินด้วย ไม่ต้องเดินทาง แค่มีเน็ตกับมุมสงบๆ ที่บ้านก็ทำได้ ผมก็เลยเอาล่ะ! ลองดูซักตั้ง
ขั้นตอนการสมัครและเตรียมตัว
ผมก็เริ่มจากโหลดแอป PalFish มาเลยครับ หน้าตาแอปก็ดูใช้งานไม่ยากนะ ตอนสมัครก็กรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไปเลย ชื่อ ที่อยู่ การศึกษา ประสบการณ์สอน (ถ้ามี) แล้วก็จะมีส่วนที่สำคัญคือการอัดวิดีโอแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ อันนี้ผมก็ซ้อมอยู่หลายรอบเหมือนกันนะ อยากให้มันออกมาดูดีที่สุด ก็พูดถึงว่าเราเป็นใคร ทำไมอยากสอนภาษาอังกฤษ แล้วก็โชว์ทักษะการพูดของเรานิดหน่อย ไม่ต้องยาวมาก ประมาณ 1-2 นาทีก็พอ
หลังจากส่งใบสมัครพร้อมวิดีโอไปแล้ว ก็ต้องรอทาง PalFish เขานอนุมัติครับ ของผมนี่รอประมาณอาทิตย์นึงได้มั้ง ก็มีแจ้งเตือนเด้งมาในแอปว่าผ่านการอนุมัติแล้ว ดีใจมาก! จากนั้นเขาก็จะมีเหมือนคอร์สอบรมสั้นๆ ให้เราดูในแอปครับ สอนเรื่องกฎระเบียบต่างๆ วิธีการใช้แพลตฟอร์ม การเตรียมตัวสอนเบื้องต้น ซึ่งก็มีประโยชน์ดี ทำให้เราเข้าใจภาพรวมมากขึ้น
พอผ่านการอบรมแล้ว ก็ถึงเวลาตั้งค่าโปรไฟล์ของเราให้ดูน่าสนใจ ใส่รูปโปรไฟล์ยิ้มแย้มแจ่มใส เขียนคำแนะนำตัวอีกทีให้ดึงดูดผู้ปกครอง แล้วก็สำคัญมากคือการเปิดตารางเวลาที่เราสะดวกสอน อันนี้ต้องดูดีๆ เพราะนักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กจีน เวลาเขากับเราจะต่างกัน ผมก็พยายามเปิดช่วงเย็นๆ หลังเลิกงานของเราไปจนถึงดึกๆ หน่อย หรือไม่ก็ช่วงเช้าตรู่เสาร์อาทิตย์
ประสบการณ์ตอนเริ่มสอนจริงๆ
แรกๆ ก็ตื่นเต้นครับ กลัวว่าจะสอนไม่ดี กลัวเด็กไม่เข้าใจ แต่พอได้ลองสอนคลาสแรกจริงๆ มันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ เด็กๆ ส่วนใหญ่น่ารักครับ อาจจะมีซนบ้างตามประสา บทเรียนเขาก็มีมาให้พร้อมในระบบเลย เป็นสไลด์ภาพการ์ตูนสีสันสดใส เราแค่เตรียมตัวทำความเข้าใจเนื้อหาแต่ละบทล่วงหน้า แล้วก็พยายามพูดช้าๆ ชัดๆ ใช้ท่าทางประกอบเยอะๆ เด็กๆ ก็จะสนุกแล้วก็มีส่วนร่วมกับเราเอง
สิ่งที่ผมเจอคือ:
- ความยืดหยุ่นเรื่องเวลา: อันนี้ชอบมาก เราเลือกเองได้เลยว่าจะเปิดสอนวันไหน กี่โมง เหมาะกับคนที่มีงานประจำแต่อยากหารายได้เสริม
- ทำงานจากที่บ้าน: สะดวกสุดๆ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง แค่เตรียมคอมพิวเตอร์ หูฟัง ไมโครโฟน แล้วก็อินเทอร์เน็ตดีๆ ก็พร้อมสอน
- บทเรียนมีให้พร้อม: ไม่ต้องมานั่งคิดเองว่าจะสอนอะไรดี PalFish เขามีหลักสูตร มีสื่อการสอนมาให้เรียบร้อย เราแค่ทำตามนั้นไป
- นักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็ก: ถ้าใครชอบเล่นกับเด็ก ชอบสอนเด็กๆ น่าจะถูกใจงานนี้เลยครับ
เรื่องที่ควรรู้และสิ่งที่ผมเจอมา
แน่นอนว่าทุกอย่างมันก็มีทั้งข้อดีและข้อที่ต้องพิจารณา สำหรับ PalFish จากประสบการณ์ผมนะ:
- การแข่งขันค่อนข้างสูง: ครูที่สมัครเข้าไปสอนมีเยอะมากครับ ช่วงแรกๆ ที่โปรไฟล์เรายังใหม่ๆ อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยกว่าจะมีนักเรียนจองเข้ามาสม่ำเสมอ ต้องพยายามสร้างโปรไฟล์ให้น่าสนใจ สอนให้ดี มีรีวิวดีๆ ก็จะช่วยได้
- รายได้: ถ้าถามว่าเยอะไหม ก็ต้องบอกว่ามันเป็นรายได้เสริมที่ดีครับ แต่ถ้าจะให้เป็นรายได้หลักเลยอาจจะต้องทุ่มเทเวลาสอนเยอะมากๆ เรทค่าสอนก็มีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับประเภทคลาส ประสบการณ์ของเราด้วย
- ความสม่ำเสมอของนักเรียน: บางช่วงนักเรียนก็เยอะมาก จองเต็มตารางเลย แต่บางช่วงก็อาจจะเงียบๆ ไปบ้าง อันนี้ต้องทำใจครับ มันเป็นปกติของงานฟรีแลนซ์
- อินเทอร์เน็ตสำคัญมาก: อันนี้เน้นเลยครับว่าเน็ตต้องแรงและเสถียร เพราะถ้าสอนๆ อยู่แล้วเน็ตหลุดบ่อยๆ มันจะเสียทั้งอารมณ์เราและนักเรียน แล้วก็อาจจะโดนรีวิวไม่ดีด้วย
- ต้องปรับตัวเรื่องเวลา: อย่างที่บอกว่านักเรียนส่วนใหญ่อยู่จีน ทำให้เราอาจจะต้องสอนในช่วงเวลาที่คนอื่นพักผ่อน เช่น ตอนดึก หรือเช้ามืดมากๆ
สรุปแล้ว PalFish ดีไหมสำหรับผม
โดยรวมแล้ว จากที่ผมได้ลองมาด้วยตัวเอง ผมว่า PalFish ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีนะครับ สำหรับคนที่อยากหารายได้เสริม อยากใช้ทักษะภาษาอังกฤษที่มี และสะดวกทำงานจากที่บ้าน มันอาจจะไม่ได้ทำให้รวยเร็ว แต่ก็เป็นช่องทางที่ทำให้มีเงินเข้ากระเป๋าเพิ่มขึ้นได้จริง และยังได้ฝึกภาษา ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ (ถึงแม้จะเป็นเด็กๆ ก็ตาม) ด้วย
ผมทำอยู่ประมาณเกือบปีครับ ก็ได้ค่าขนม ค่ากาแฟ พอสมควรเลย หลังๆ งานประจำเริ่มยุ่งมากขึ้น เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปเปิดตารางสอนเท่าไหร่ แต่ก็ยังมองว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ นะครับ ใครที่กำลังสนใจอยู่ก็ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วก็ลองสมัครดูได้ ไม่เสียหายอะไรครับ อย่างน้อยก็ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเอง