สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ กับ Palfish Thailand ที่ผมเคยลองเข้าไปคลุกคลีอยู่พักนึง เผื่อใครกำลังสนใจอยู่ จะได้พอเห็นภาพนะครับ
เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นผมก็มองหาลู่ทางหารายได้เสริมอยู่เหมือนกัน แล้วก็เห็นโฆษณา Palfish ผ่านตาบ่อยๆ ทั้งในเฟซบุ๊ก ทั้งเพื่อนๆ พูดถึงกันบ้าง ก็เลยเออ ลองดูซักตั้ง มันจะเป็นยังไงกันนะ
ขั้นตอนการเริ่มต้นกับ Palfish Thailand
ตอนแรกเลยนะครับ ผมก็เริ่มจากไปดาวน์โหลดแอปมาก่อนเลย แล้วก็เริ่มขั้นตอนการสมัคร ซึ่งบอกตามตรงว่าเอกสารที่ต้องใช้เนี่ย ไม่ใช่น้อยๆ เลยครับ มีทั้งบัตรประชาชน ทั้งวุฒิการศึกษา แล้วก็ต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษอีก โอ้โห ตอนนั้นก็แอบท้อเหมือนกันนะ กว่าจะเตรียมครบ กว่าจะอัปโหลดผ่านแต่ละอย่างใช้เวลาพอสมควรเลย
หลังจากส่งเอกสารครบถ้วนแล้ว ก็ต้องรอทาง Palfish ตรวจสอบอีก ซึ่งขั้นตอนนี้ก็ใช้เวลารอไปอีกหลายวันเหมือนกันครับ ระหว่างรอนี่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ มาก กลัวไม่ผ่าน ฮ่าๆ แต่สุดท้ายก็ได้รับอีเมลแจ้งว่าผ่านการอนุมัติแล้ว ดีใจสุดๆ ตอนนั้น
ประสบการณ์การใช้งานจริง
พอได้เริ่มใช้งานจริง สิ่งแรกที่ผมทำคือเข้าไปสำรวจตัวแอปพลิเคชันก่อนเลย ดูว่ามีฟังก์ชันอะไรบ้าง ใช้งานยากง่ายแค่ไหน ซึ่งโดยรวมหน้าตาแอปก็ดูทันสมัยดีนะครับ แต่ก็มีบางจุดที่ผมว่ายังงงๆ อยู่นิดหน่อย อาจจะต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยซักพัก
ทีนี้ก็มาถึงส่วนสำคัญ คือการเริ่มรับงานสอน ตอนแรกๆ งานก็ยังไม่ค่อยมีเข้ามาเท่าไหร่ครับ ผมก็ต้องคอยเข้าไปเช็คในแอปอยู่เรื่อยๆ ว่ามีใครเปิดหาครูบ้างไหม หรือมีคลาสว่างให้เราเข้าไปจองสอนหรือเปล่า บางทีก็ต้องอาศัยการโปรโมทตัวเองในกลุ่มต่างๆ ของ Palfish ด้วยเหมือนกัน กว่าจะได้นักเรียนคนแรกก็ลุ้นอยู่เหมือนกันครับ
พอได้เริ่มสอนจริง นักเรียนส่วนใหญ่ก็น่ารักดีครับ เป็นเด็กๆ ที่อยากเรียนภาษาอังกฤษ แต่ก็มีบ้างที่เจอเด็กเล็กมากๆ ที่อาจจะยังไม่พร้อมเรียนเท่าไหร่ ก็ต้องใช้พลังเยอะหน่อยในการดึงความสนใจ ส่วนเรื่องระบบของแอประหว่างสอน ก็มีทั้งวันดีคืนดีครับ บางวันก็ราบรื่นดี สัญญาณชัดเจนไม่มีปัญหา แต่บางวันสัญญาณก็ติดๆ ดับๆ ภาพค้างบ้าง เสียงหายบ้าง ก็ต้องแก้ปัญหากันไปหน้างาน ซึ่งตรงนี้ก็แอบหงุดหงิดบ้างเป็นครั้งคราว
เรื่องรายได้นี่ก็เป็นอีกประเด็นที่หลายคนน่าจะสนใจ จากประสบการณ์ของผมคือมันก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้นครับ คือถ้าขยันสอนมากๆ มีชั่วโมงสอนเยอะๆ ก็พอได้เป็นค่าขนมอยู่บ้าง แต่ถ้าจะให้เป็นรายได้หลักเลยเนี่ย อาจจะต้องทุ่มเทเวลาพอสมควรเลย แล้วก็ต้องรอรอบการจ่ายเงินด้วย ซึ่งบางทีก็รู้สึกว่ารอนานไปหน่อยกว่าเงินจะเข้าบัญชี
- ข้อดีที่ผมเจอ:
- ได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา
- มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงาน สามารถเลือกเวลาที่เราสะดวกได้
- ได้เจอนักเรียนน่ารักๆ ทำให้รู้สึกดีเวลาสอน
- ข้อที่อาจจะต้องพิจารณา:
- ช่วงแรกอาจจะต้องใช้เวลาในการสร้างโปรไฟล์และหานักเรียน
- ระบบบางครั้งไม่ค่อยเสถียรเท่าที่ควร
- รายได้อาจจะไม่สูงมากนัก ถ้าเทียบกับเวลาและพลังงานที่ใส่ลงไป
- การแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะมีคุณครูท่านอื่นเยอะมาก
เรื่องเล่าจากประสบการณ์คล้ายๆ กัน
จะว่าไปแล้ว ประสบการณ์กับ Palfish นี่มันทำให้ผมนึกถึงตอนที่เคยลองผิดลองถูกทำธุรกิจออนไลน์เล็กๆ ของตัวเองเลยครับ ตอนนั้นเห็นคนอื่นเขาขายของออนไลน์กันปังๆ มีออเดอร์เข้าตลอด เราก็อยากจะลองบ้าง คิดว่ามันน่าจะง่าย
ผมก็เริ่มเลยครับ ไปหาของมาสต็อก ถ่ายรูปสินค้าเอง ทำคอนเทนต์เอง ตอบแชทลูกค้าเอง แพ็คของเอง ส่งของเอง ทำทุกอย่างคนเดียวหมดเลย ตอนแรกๆ ก็ไฟแรงมาก คิดว่าจะต้องขายดีแน่ๆ แต่พอทำไปสักพัก มันไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ ยอดขายก็ไม่ได้เยอะเหมือนที่หวังไว้ ของก็เหลือเต็มสต็อก แถมยังต้องมานั่งเครียดเรื่องคู่แข่งตัดราคาอีก สรุปคือเหนื่อยมาก แต่ผลลัพธ์ไม่คุ้มเหนื่อยเท่าไหร่เลย
มันทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม มันไม่มีอะไรง่ายเสมอไปหรอกครับ สิ่งที่เราเห็นคนอื่นทำแล้วประสบความสำเร็จ เบื้องหลังเขาอาจจะต้องผ่านความพยายามและความลำบากมาเยอะมากก็ได้ Palfish ก็เหมือนกันครับ บางคนอาจจะเข้ามาแล้วรุ่งมากๆ มีนักเรียนจองคิวเต็มตลอด แต่สำหรับบางคนก็อาจจะต้องใช้ความพยายามและเวลามากกว่านั้น
สรุปส่งท้าย
โดยรวมแล้ว Palfish Thailand ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าสนใจนะครับ สำหรับคนที่อยากหารายได้เสริม หรืออยากฝึกทักษะการสอนภาษาอังกฤษ แต่ก็อยากให้เตรียมใจไว้หน่อยว่ามันอาจจะไม่ได้สวยหรูเหมือนภาพที่เราคิดไว้เสมอไป มันมีทั้งข้อดีและข้อที่ต้องพิจารณา
ถ้าใครสนใจจริงๆ ผมว่าก็ลองสมัครแล้วเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเองเลยครับ จะได้รู้ว่ามันเหมาะกับเราหรือเปล่า เพราะประสบการณ์ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องเปิดใจเรียนรู้ แล้วก็อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ ครับ หวังว่าที่ผมแชร์ไปวันนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ!