ประสบการณ์ตรงของผมกับการหาข้อมูลค่าเรียน PalFish
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ เลยครับ เรื่องมันเริ่มมาจากช่วงที่เจ้าตัวเล็กที่บ้านเริ่มโตพอจะเรียนภาษาอังกฤษเสริมได้แล้ว ประกอบกับเห็นโฆษณา PalFish ผ่านตาบ่อยๆ ในโซเชียล ก็เลยเกิดความสงสัยใคร่รู้ว่า ค่าเรียน PalFish ราคา มันประมาณไหนกันนะ จะได้ลองเอามาพิจารณาดู
ตอนแรกเลยนะครับ ผมก็เหมือนคนอื่นๆ แหละครับ โหลดแอป PalFish มาก่อนเลย กะว่าเดี๋ยวเข้าไปคงมีบอกราคาชัดเจน แต่พอเปิดแอปขึ้นมาจริงๆ โอ้โห…ตัวเลือกเยอะแยะไปหมด มีทั้งคลาสแบบนู้น แบบนี้ คลาสกับครูเจ้าของภาษา คลาสกลุ่ม คลาสเดี่ยว คือมันละลานตาไปหมดครับ ผมก็พยายามจิ้มๆ กดๆ หาส่วนที่เป็นค่าเรียนโดยตรง
ผมใช้เวลาอยู่พักใหญ่เลยครับในการงมหาเมนูต่างๆ ในแอป คือมันก็มีส่วนที่บอกรายละเอียดคอร์สนะครับ แต่บางทีราคามันไม่ได้โชว์โต้งๆ แบบเห็นปั๊บรู้เลย มันจะมีให้ติดต่อสอบถาม หรือบางทีก็เป็นแพ็กเกจแบบเหมาจ่ายจำนวนครั้งเรียนเยอะๆ แล้วราคาต่อครั้งจะถูกลงอะไรทำนองนั้น ผมก็เลยลองกดๆ เข้าไปดูในส่วนของโปรโมชั่น หรือส่วนที่เขามีให้ทดลองเรียนฟรีดูก่อน เผื่อจะมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม
สิ่งที่ผมเจอคือ ราคา PalFish เนี่ย มันก็แล้วแต่คอร์ส แล้วแต่จำนวนครั้งที่ซื้อจริงๆ ครับ บางทีก็มีโปรโมชั่นตามช่วงเวลาด้วย คือถ้าจะให้ฟันธงว่าเท่าไหร่เป๊ะๆ นี่บอกยากเลยครับ เพราะมันยืดหยุ่นมาก ผมเห็นมีตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่นก็มี ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกเรียนแบบไหน เรียนกี่ครั้ง ครูเป็นใคร อะไรประมาณนั้นครับ
ผมจำได้เลยครับว่าตอนนั้นก็มีแอบท้อเล็กๆ นะครับ คืออยากรู้ราคาแบบชัดๆ ไปเลยจะได้ตัดสินใจง่ายๆ แต่ก็เข้าใจแหละว่าเขาก็คงอยากให้เราได้ลองคุยกับที่ปรึกษาของเขาก่อน จะได้แนะนำคอร์สที่เหมาะกับลูกเราจริงๆ ไม่ใช่แค่ดูราคาแล้วตัดสินใจไปเลย ซึ่งมันก็มีเหตุผลของมันอยู่
ทำไมผมถึงพยายามหาข้อมูลขนาดนั้น?
คือเรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ก่อนหน้านี้ผมเคยพลาดไปลงคอร์สเรียนออนไลน์อย่างอื่นให้ลูกไปแล้วครับ ไม่ใช่ PalFish นะครับ เป็นเจ้าอื่น ตอนนั้นคือรีบร้อน เห็นโฆษณาแล้วดูน่าสนใจ ราคาก็ดูโอเค เลยตัดสินใจสมัครไปเลย ปรากฏว่าพอเรียนจริงๆ ลูกไม่ค่อยชอบ ไม่ค่อยสนุก หรือบางทีเวลาเรียนก็ไม่ค่อยตรงกับตารางชีวิตของเราเท่าไหร่ สุดท้ายก็เหมือนเสียเงินไปเปล่าๆ เลยครับ เรียนไม่กี่ครั้งก็เลิก
บทเรียนครั้งนั้นมันสอนผมเลยครับว่า เรื่องการเรียนของลูกเนี่ย จะดูแค่ราคาอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ มันต้องดูหลายอย่างประกอบกัน ทั้งความสนใจของลูก สไตล์การสอน เวลาที่สะดวก แล้วก็ค่อยมาดูเรื่องค่าใช้จ่าย ผมเลยตั้งใจว่ากับ PalFish เนี่ย จะขอศึกษาข้อมูลให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อน ไม่อยากพลาดซ้ำสองครับ
สุดท้ายแล้ว ผมก็ยังไม่ได้ตัดสินใจลงเรียน PalFish ให้ลูกนะครับ เพราะกำลังอยู่ในช่วงเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ ด้วย แต่จากการที่ได้ลองเข้าไปสำรวจแอป ลองกดดูนู่นนี่นั่นด้วยตัวเอง ก็พอจะเห็นภาพรวมของ ค่าเรียน PalFish ราคา ว่ามันมีช่วงประมาณไหนบ้าง แล้วก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ได้แสดงราคาแบบตายตัวไว้หน้าแรกเลย
ก็หวังว่าประสบการณ์ที่ผมมาเล่าให้ฟังวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับพ่อๆ แม่ๆ ท่านอื่นที่กำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูกๆ อยู่นะครับ สำคัญที่สุดคือลองเข้าไปศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองในแอปเลยครับ จะได้ข้อมูลที่อัปเดตและตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดครับผม!