สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมกับการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์กับ Palfish Thailand รีวิวแบบบ้านๆ จากคนที่ลองทำจริง ไม่ได้มีสปอนเซอร์ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ
จุดเริ่มต้นของการเดินทางกับ Palfish
เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นผมก็มองหารายได้เสริมอยู่ครับ อยากได้งานที่ทำจากที่บ้านได้ ไม่ต้องเดินทางให้วุ่นวาย แล้วก็เป็นคนชอบสอน ชอบคุยกับเด็กๆ อยู่แล้วด้วย ก็เลยลองค้นหาในอินเทอร์เน็ตดูว่ามีแพลตฟอร์มไหนน่าสนใจบ้าง จนไปเจอเข้ากับ Palfish เนี่ยแหละครับ เห็นรีวิวผ่านๆ ตาว่าสอนเด็กจีน ก็เอ้อ น่าสนใจดีแฮะ
ขั้นตอนการสมัครที่ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด
ตอนแรกก็แอบคิดว่ามันจะยุ่งยากไหมนะ ต้องเตรียมเอกสารอะไรเยอะแยะหรือเปล่า แต่พอเข้าไปดูรายละเอียดจริงๆ การสมัครก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายครับ หลักๆ ก็คือต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เตรียมพวกสำเนาบัตรประชาชน วุฒิการศึกษา (ถ้ามีพวกใบรับรองการสอนภาษาอังกฤษอย่าง TEFL, TESOL ก็จะดีมาก) แล้วก็ที่สำคัญเลยคือต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองสั้นๆ พร้อมกับสาธิตการสอนนิดหน่อย
ตอนอัดวิดีโอนี่แหละครับที่ตื่นเต้นสุดๆ 555 ก็พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติ พูดจาฉะฉาน ยิ้มแย้มเข้าไว้ คิดซะว่ากำลังคุยกับเด็กๆ จริงๆ หลังจากส่งใบสมัครกับวิดีโอไป ก็รอทางทีมงาน Palfish Thailand ติดต่อกลับมา ซึ่งก็ไม่ได้นานเกินรอครับ ไม่กี่วันก็มีอีเมลแจ้งผลเข้ามาว่าผ่านแล้ว! ดีใจสุดๆ ไปเลย
เตรียมตัวก่อนเริ่มสอนจริงจัง
พอผ่านการคัดเลือกแล้ว ก็ยังไม่ได้เริ่มสอนทันทีนะครับ ทาง Palfish เค้าก็จะมีพวกข้อมูล มีไกด์ไลน์ต่างๆ ให้อ่านทำความเข้าใจก่อน มีการเทรนนิ่งออนไลน์นิดหน่อย สอนการใช้งานแพลตฟอร์ม การเตรียมตัวสอน การจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างสอน ผมว่าตรงนี้ดีมากเลยนะ เหมือนเป็นการปูพื้นฐานให้เราพร้อมก่อนลงสนามจริง
ผมก็ใช้เวลาศึกษาข้อมูลตรงนี้อยู่พักใหญ่เลยครับ ลองเข้าไปดูในแอปว่าหน้าตาเป็นยังไง มีฟังก์ชันอะไรให้ใช้บ้าง แล้วก็เริ่มเตรียมพวกอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น หูฟังดีๆ ไมโครโฟนชัดๆ อินเทอร์เน็ตแรงๆ (อันนี้สำคัญมาก!) แล้วก็หาฉากหลังที่ดูเรียบร้อยหน่อย
ประสบการณ์การสอนครั้งแรก และครั้งต่อๆ ไป
วันแรกที่เปิดสอนนี่จำได้แม่นเลยครับ ตื่นเต้นมาก! นักเรียนคนแรกของผมเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักมาก น้องก็ดูตื่นเต้นเหมือนกัน 555 ช่วงแรกๆ ก็อาจจะยังมีติดขัดบ้างเรื่องการสื่อสาร แต่ Palfish เค้ามีสื่อการสอนสำเร็จรูปมาให้เลยครับ เป็นสไลด์ มีรูปภาพ มีเกม มีเพลงประกอบ ทำให้การสอนมันง่ายขึ้นเยอะ เราแค่ทำตามสไลด์ไป แล้วก็พยายามกระตุ้นให้น้องมีส่วนร่วม ชวนคุย ชวนเล่น
หลังจากสอนไปได้สักพัก ก็เริ่มชิน เริ่มจับทางได้ครับ เด็กแต่ละคนก็จะมีนิสัยใจคอไม่เหมือนกัน บางคนขี้อาย บางคนซน บางคนชอบพูดชอบคุย เราก็ต้องปรับวิธีการสอนไปตามแต่ละคน พยายามทำให้บรรยากาศในห้องเรียนมันสนุก ไม่น่าเบื่อ
- ข้อดีที่เจอ: ได้ฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองไปด้วย ได้เจอเด็กๆ น่ารักๆ เยอะแยะเลย เวลาทำงานก็ยืดหยุ่นดี เราเลือกช่วงเวลาที่เราสะดวกสอนได้เอง ทำงานจากที่บ้านได้สบายๆ
- ข้อที่ต้องปรับตัว: บางทีก็มีปัญหาเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตบ้าง ทั้งฝั่งเราฝั่งนักเรียน ก็ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ แก้กันไป แล้วก็เรื่องเวลาที่ต้องเป๊ะนิดนึง เพราะสอนเด็กต่างชาติ เวลาเค้าก็สำคัญ
เรื่องรายได้ก็ถือว่าโอเคเลยครับสำหรับผมนะ มันอาจจะไม่ได้มากมายมหาศาล แต่ก็เป็นรายได้เสริมที่ดี ยิ่งถ้าเรามีชั่วโมงสอนเยอะ มีนักเรียนประจำเยอะ รายได้ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทาง Palfish เค้าก็จ่ายเงินตรงเวลานะครับ ไม่เคยมีปัญหา
บทสรุปจากการลองจริง
โดยรวมแล้ว ประสบการณ์ของผมกับ Palfish Thailand ถือว่าดีเลยครับ มันเป็นมากกว่าแค่การหารายได้เสริมนะ ผมรู้สึกว่าตัวเองได้พัฒนาทักษะหลายอย่าง ทั้งทักษะการสอน การสื่อสาร การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แล้วก็ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ เวลาที่เค้าเรียนแล้วสนุก หรือทำอะไรได้สำเร็จ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ครับ
ใครที่กำลังมองหางานสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ หรืออยากหารายได้เสริมจากที่บ้าน ผมว่า Palfish ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยครับ ลองศึกษาข้อมูลดู เตรียมตัวให้พร้อม แล้วก็ลุยเลย! ไม่แน่ว่าคุณอาจจะค้นพบความสุขจากการสอนเหมือนผมก็ได้นะ