สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่ได้ไปลองสมัครแล้วก็สอนกับ Palfish ในไทยดูว่าเป็นยังไงบ้าง เผื่อใครกำลังสนใจอยู่ จะได้เห็นภาพรวมๆ เนาะ
เริ่มจากความคิดแรกเลย
คือช่วงนั้นว่างๆ ครับ แล้วก็เห็นคนพูดถึง Palfish กันเยอะ ว่าเป็นแพลตฟอร์มสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้เด็กๆ ชาวจีน ก็เลยเอ้อ ลองดูหน่อยดีกว่า เผื่อจะเป็นรายได้เสริมอีกทาง ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก คิดซะว่าลองของใหม่
ขั้นตอนการสมัคร และเตรียมตัว
ผมก็เริ่มจากโหลดแอป Palfish Teacher มาก่อนเลย หน้าตามันก็ดูใช้งานง่ายนะ กรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไป แล้วก็มีให้ทำโปรไฟล์ครูหน่อยๆ ใส่รูป ใส่คลิปแนะนำตัวสั้นๆ ตรงนี้แหละที่ต้องเตรียมตัวนิดนึง ผมก็พยายามทำคลิปให้ดูเป็นมิตร สดใส พูดภาษาอังกฤษชัดๆ หน่อย เพราะกลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนเด็กๆ
จากนั้นก็จะมีให้อัปโหลดเอกสารครับ พวกบัตรประชาชน ใบรับรองการศึกษา (ถ้ามี) หรือพวกใบรับรองการสอนภาษาอังกฤษอย่าง TEFL/TESOL อันนี้ใครมีก็ใส่ไป ผมเองก็มีอันนึงก็ใส่ไป มันช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้เยอะเลย
เสร็จแล้วก็จะมีให้ทำ Demo Class หรือคลิปสอนตัวอย่าง อันนี้สำคัญมาก! เขาจะมีหัวข้อมาให้เราเลือก แล้วเราก็อัดคลิปสอนตามนั้นเลย ผมเลือกหัวข้อเกี่ยวกับสัตว์ แล้วก็พยายามใช้ props ง่ายๆ ที่มีในบ้านมาประกอบการสอน ทำให้ดูสนุกสนานหน่อย ตอนอัดนี่ก็เขินๆ ตัวเองเหมือนกันนะ ฮ่าๆ แต่ก็พยายามเต็มที่
หลังจากส่ง Demo ไป ก็รอผลอนุมัติครับ จำได้ว่ารอไม่นานเท่าไหร่ วันสองวันก็มีแจ้งเตือนมาว่าผ่านแล้ว ดีใจมาก!
เริ่มรับงานสอนจริง
พอโปรไฟล์เราผ่านการอนุมัติแล้ว เราก็สามารถเปิด Slot เวลาที่เราสะดวกสอนได้เลยครับ เด็กๆ หรือผู้ปกครองเขาก็จะเข้ามาจองเวลาเรียนกับเราเอง คลาสส่วนใหญ่จะเป็นคลาสละ 25 นาที สอนเด็กเล็กๆ นี่แหละครับ เนื้อหาการสอนเขาก็มีมาให้ในแอปเลยนะ เป็นสไลด์ภาพการ์ตูนสีสันสดใส เราก็สอนไปตามสไลด์นั้นแหละ
ช่วงแรกๆ ที่ยังไม่มีรีวิว หรือยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก คลาสก็อาจจะยังไม่เยอะเท่าไหร่ ผมก็อาศัยโปรโมทตัวเองในกลุ่มครู Palfish บ้าง หรือพยายามทำโปรไฟล์ให้น่าสนใจเข้าไว้
- ความท้าทาย: เด็กเล็กสมาธิสั้นครับ บางทีก็ต้องหากิจกรรมเสริม ชวนคุย ชวนเล่นเกมง่ายๆ ในคลาส เพื่อดึงความสนใจเขาไว้
- ข้อดี: สอนจากที่บ้านได้เลย สะดวกมาก เลือกเวลาเองได้ นักเรียนส่วนใหญ่น่ารักครับ ผู้ปกครองเขาก็อยากให้ลูกได้ฝึกภาษาจริงๆ
- เรื่องเงิน: รายได้มันก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคลาสที่เราสอน แล้วก็เรทที่เราตั้ง (สำหรับบางประเภทคลาส) หรือเรทที่แพลตฟอร์มกำหนด มันก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้นนะ แต่ก็ถือเป็นรายได้เสริมที่ดีเลยแหละ
ประสบการณ์ส่วนตัวที่อยากแชร์
เอาจริงๆ นะ ผมมาลองทำ Palfish เนี่ย ส่วนหนึ่งก็เพราะช่วงนั้นเบื่องานประจำ อยากหาอะไรใหม่ๆ ทำ แล้วก็อยากใช้ภาษาอังกฤษที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์ด้วยแหละ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะทำจริงจังอะไรมากมาย แต่พอได้ลองสอนเด็กๆ แล้วมันก็สนุกดีนะ เห็นพัฒนาการของเขา จากที่พูดไม่ได้เลย จนเริ่มพูดเป็นคำๆ เริ่มโต้ตอบได้ มันก็รู้สึกภูมิใจเล็กๆ
แต่ก็มีช่วงที่ท้อเหมือนกันนะ บางทีเปิด Slot ไว้แล้วไม่มีคนจองเลย มันก็แอบเฟลๆ หน่อย หรือบางทีเจอเด็กที่งอแงมาก สอนยาก อันนี้ก็ต้องใช้ความอดทนสูงมาก แล้วก็เรื่องอินเทอร์เน็ตอีก ถ้าเน็ตไม่ดี สัญญาณกระตุก คลาสก็จะไม่ราบรื่นเลย อันนี้ต้องเช็คให้ดีก่อนสอนทุกครั้ง
เรื่องการแข่งขันก็สูงครับ ครูเก่งๆ เยอะแยะไปหมด เราก็ต้องพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ หาเทคนิคการสอนใหม่ๆ มาใช้
สรุปแล้ว Palfish Thailand รีวิวในมุมมองผม
ถ้าถามว่ามันเวิร์คไหม? ผมว่ามันก็เวิร์คสำหรับคนที่มีเวลาว่าง อยากหารายได้เสริม และชอบสอนเด็กๆ ชอบใช้ภาษาอังกฤษนะ มันให้ความยืดหยุ่นดี แต่ถ้าจะหวังเป็นรายได้หลักเลย อาจจะต้องทุ่มเทเวลาและพลังงานเยอะหน่อย แล้วก็ต้องยอมรับว่ารายได้มันอาจจะไม่แน่นอนเท่ากับการทำงานประจำ
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำ Palfish คือ ได้ฝึกความอดทน ได้ฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสอน แล้วก็ได้เห็นโลกอีกมุมหนึ่งของเด็กๆ ต่างชาติด้วย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ตอนนี้ผมก็ไม่ได้สอนประจำแล้วเพราะมีงานอื่นเข้ามา แต่ก็ยังเก็บ Palfish ไว้เป็นตัวเลือกเผื่อวันไหนอยากกลับไปสอนอีก
ก็ประมาณนี้แหละครับ ประสบการณ์ตรงของผมกับ Palfish หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจอยู่นะครับ ลองพิจารณากันดูครับ!