สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่เคยลองใช้งาน Palfish ในไทยดูว่าเป็นยังไงบ้าง เผื่อใครกำลังสนใจอยู่ จะได้พอเห็นภาพนะครับ
จุดเริ่มต้นที่ทำให้มาลอง Palfish
เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นว่างๆ ครับ แล้วก็มีเพื่อนคนนึงมาชวนคุยว่าเนี่ย มีแอปชื่อ Palfish นะ ลองไปสมัครเป็นครูสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ดูสิ เห็นเค้าว่าดี ได้เงินด้วย ตอนแรกผมก็เอ๊ะ มันคืออะไรวะ ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย แต่พอเพื่อนบอกว่าสอนเด็กๆ ชาวจีนผ่านแอป ไอ้เราก็แบบ…น่าสนใจดีแฮะ ปกติก็ชอบเล่นกับเด็กอยู่แล้ว แถมได้ฝึกภาษาตัวเองไปด้วยอีกต่างหาก ว่าแล้วก็เลยตัดสินใจลองดูสักตั้ง
ขั้นตอนการสมัครและเตรียมตัว (แบบบ้านๆ)
พอโหลดแอปมาปุ๊บ โอ้โห…กรอกข้อมูลเยอะเหมือนกันนะ ทั้งข้อมูลส่วนตัว ประสบการณ์สอน (ถ้ามี) แล้วก็ที่สำคัญเลยคือต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองสั้นๆ ส่งไปด้วย ตอนอัดนี่ก็เขินๆ หน่อย พูดคนเดียวหน้ากล้อง ฮ่าๆ
สิ่งที่ผมเน้นเลยตอนเตรียมตัวคือ:
- หาฉากหลังที่มันดูโอเคหน่อย ไม่รกหูรกตา เพราะเราต้องเปิดกล้องสอนเด็ก
- เช็คความเร็วอินเทอร์เน็ต อันนี้สำคัญมากกกก ถ้าเน็ตกากแล้วสอนกระตุกนี่จบเลย ทั้งเราทั้งนักเรียนหัวเสีย
- เตรียมอุปกรณ์เสริมเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตุ๊กตา หรือภาพการ์ตูนสีสันสดใสไว้ดึงดูดความสนใจเด็กๆ
- แล้วก็ซ้อมพูด ซ้อมออกเสียงให้ชัดๆ หน่อย เพราะเราสอนภาษาอะเนอะ
ตอนนั้นผมก็ไม่ได้มีใบเซอร์อะไรหรอกครับ อาศัยประสบการณ์เคยสอนพิเศษเด็กแถวบ้านมาก่อน ก็ใส่ๆ ไปตามนั้นแหละ ระบบเค้าก็ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องเอกสารอะไรขนาดนั้นสำหรับบางประเภทครูนะ แต่ถ้ามีก็ดีกว่าแน่นอน
ลงสนามจริง! ประสบการณ์สอนกับ Palfish
พอได้อนุมัติแล้วก็เริ่มเปิดรับนักเรียนเลยครับ ตื่นเต้นมากกก คลาสแรกจำได้เลยว่าประหม่าสุดๆ เด็กที่มาเรียนก็น่ารักนะ แต่ก็มีซนบ้างตามประสาเด็ก เราก็ต้องหาเรื่องชวนคุย ชวนเล่นไปเรื่อย
สิ่งที่เจอจากการสอนจริงก็มีทั้งเรื่องดีและเรื่องที่ต้องปรับตัว:
เรื่องดีๆ ก่อนแล้วกัน:
- Palfish เค้ามีบทเรียนสำเร็จรูปมาให้เลย เราแค่เตรียมตัวทำความเข้าใจเนื้อหาก่อนสอนก็พอ ไม่ต้องมานั่งคิดเองว่าจะสอนอะไรดี สะดวกมากๆ
- ได้เจอเด็กหลายแบบ หลายสไตล์ ทำให้เราได้ฝึกทักษะการรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้า
- เป็นช่องทางหารายได้เสริมที่ดีประมาณนึงเลย ถ้าขยันเปิดสล็อตเยอะๆ แล้วมีนักเรียนจองก็โอเคอยู่
ส่วนเรื่องที่ต้องเจอและปรับตัว:
- เวลาสอนส่วนใหญ่มันจะเป็นช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ของบ้านเรา เพราะต้องอิงตามเวลาฝั่งจีน ใครที่ทำงานประจำอาจจะต้องจัดสรรเวลาดีๆ หน่อย
- เด็กบางคนก็สมาธิสั้นมากกก เราต้องใช้พลังงานเยอะในการดึงเค้าให้อยู่กับบทเรียน บางวันสอนเสร็จคือหมดแรง
- ระบบแอปบางทีก็มีเอ๋อๆ บ้าง สัญญาณภาพเสียงกระตุกก็มีเจอบ้าง อันนี้ก็ต้องทำใจ
- บทเรียนบางทีมันก็ซ้ำๆ วนๆ ไปหน่อย ถ้าเจอนักเรียนที่เรียนมานานแล้วเค้าอาจจะเริ่มเบื่อ เราก็ต้องพยายามหาอะไรมาเสริมเอง
เคยมีครั้งนึงสอนๆ อยู่แล้วไฟดับ! โอ้โห ตอนนั้นเหงื่อตกเลยครับ รีบหาทางต่อเน็ตมือถือสอนต่อแบบทุลักทุเลสุดๆ เป็นประสบการณ์ที่จำไม่ลืมเลย ฮ่าๆ
บทสรุปจากประสบการณ์ตรง
ผมทำ Palfish อยู่พักใหญ่ๆ เลยครับ ถามว่าโดยรวมโอเคไหม ก็ต้องบอกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองหลายอย่างเลย ทั้งเรื่องภาษา การสอน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
แต่ถ้าถามว่าจะให้ยึดเป็นอาชีพหลักเลยไหม สำหรับผมเองอาจจะยังไม่ถึงขนาดนั้นครับ เพราะมันก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา เช่น ความสม่ำเสมอของรายได้ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียนที่มาจองคลาสเราด้วย แล้วก็เรื่องของเวลาที่อาจจะไม่ค่อยยืดหยุ่นเท่าไหร่
สิ่งที่อยากฝากไว้สำหรับคนที่สนใจอยากลอง:
- เตรียมใจเรื่องการใช้พลังงานเยอะหน่อย โดยเฉพาะถ้าสอนเด็กเล็ก
- อินเทอร์เน็ตต้องดีจริงๆ ไม่งั้นจะหงุดหงิดทั้งคนสอนคนเรียน
- อย่าคาดหวังรายได้ที่สูงปรี๊ดในช่วงแรกๆ มันต้องค่อยๆ สะสมประสบการณ์และฐานนักเรียน
- มีความอดทนสูงๆ เพราะจะเจอเด็กหลากหลายรูปแบบมาก
สุดท้ายผมก็ค่อยๆ เฟดตัวออกมาครับ เพราะมีภารกิจอย่างอื่นที่ต้องทำ แต่ก็ยังคิดว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับคนที่อยากหารายได้เสริม หรืออยากลองประสบการณ์สอนออนไลน์ดูสักครั้งในชีวิตนะ มันก็ได้อะไรมากกว่าที่คิดจริงๆ ครับ ลองดูครับ ไม่เสียหาย!