สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ กับการลองใช้ Palfish ดูบ้าง หลังจากที่เห็นคนพูดถึงกันเยอะพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องราคาเนี่ย หลายคนก็อยากรู้ว่ามันคุ้มไหม ดีจริงรึเปล่า ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่สงสัย ก็เลยตัดสินใจลองดูสักตั้งครับ
จุดเริ่มต้นการใช้งาน Palfish
เรื่องของเรื่องคือ ลูกผมเริ่มโตแล้ว อยากให้เค้าได้ภาษาอังกฤษติดตัวไว้บ้าง ก็เลยมองหาแอปสอนภาษาสำหรับเด็ก ลองเสิร์ชหาข้อมูล อ่านรีวิวต่างๆ ก็มาเจอ Palfish นี่แหละครับ เห็นหน้าตาแอปมันดูสีสันสดใสดี น่าจะดึงดูดเด็กได้ ตอนแรกก็ยังไม่ได้ตัดสินใจทันทีนะ ก็เข้าไปดูในแอปเค้าก่อนเลย
ขั้นตอนการลองผิดลองถูก:
- โหลดแอปมาติดตั้ง: อันนี้ง่ายมากครับ เข้าไปในสโตร์ พิมพ์ชื่อ Palfish ก็เจอเลย กดดาวน์โหลด ติดตั้ง แป๊บเดียวเสร็จ
- สำรวจภายในแอป: พอเปิดแอปมา โอ้โห! มีอะไรให้เล่นเยอะแยะเลย มีทั้งแบบเรียนเป็นคอร์ส มีทั้งแบบครูตัวต่อตัว มีเกม มีนิทาน ดูแล้วตาลายเหมือนกันนะ ตอนแรกก็งงๆ ว่าจะเริ่มตรงไหนดี
- ลองคลาสทดลองเรียน: เห็นเค้ามีให้ทดลองเรียนฟรีได้ ผมก็ไม่รอช้าครับ จัดไปเลย อยากรู้ว่าครูเค้าสอนเป็นยังไง ลูกเราจะชอบไหม ก็เลือกครู เลือกเวลา แล้วก็ลองเรียนดู
มาถึงเรื่องสำคัญ: Palfish ราคาเป็นยังไง?
พอได้ลองคลาสทดลองแล้ว ลูกก็ดูท่าทางสนุกดีนะ ครูเค้าก็พยายามชวนคุย ชวนเล่นตลอด คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนที่ต้องตัดสินใจว่าจะซื้อคอร์สจริงจังไหม ก็เลยเข้าไปดูเรื่องราคาครับ
สิ่งที่ผมเจอเกี่ยวกับราคา:
- มีหลายแพ็กเกจมาก: อันนี้จริงเลยครับ มีทั้งแบบซื้อเป็นจำนวนคลาส แบบเหมาเป็นเดือน เป็นปี ราคาแต่ละแบบก็ต่างกันไป ต้องมานั่งคำนวณดูว่าแบบไหนคุ้มกับเราที่สุด
- ราคาค่อนข้างสูงเหมือนกันนะ: ถ้าเทียบกับแอปสอนภาษาบางตัวที่เคยเห็นๆ มา หรือเทียบกับการไปเรียนพิเศษข้างนอก Palfish ก็ถือว่ามีราคาที่ต้องคิดหนักเหมือนกันครับ ไม่ใช่ว่าถูกจนซื้อได้เลยทันที
- มีโปรโมชั่นเรื่อยๆ: อันนี้สังเกตเห็นว่าเค้าจะมีโปรลดราคา หรือแถมคลาสพิเศษอยู่บ่อยๆ ถ้าใครไม่รีบก็อาจจะรอจังหวะดีๆ ได้
- จ่ายทีเดียวเป็นก้อน: ส่วนใหญ่แพ็กเกจที่คุ้มๆ มักจะต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ไปเลยทีเดียว อันนี้ก็ต้องดูสภาพคล่องทางการเงินของเราด้วยครับ
ผมเองก็ใช้เวลาตัดสินใจอยู่นานเหมือนกันนะ นั่งเทียบข้อดีข้อเสีย เทียบราคา กับสิ่งที่คิดว่าจะได้กลับมา สุดท้ายก็ลองซื้อแพ็กเกจระยะสั้นมาลองดูก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าลูกชอบจริงๆ และเราจ่ายไหว
ประสบการณ์หลังจ่ายเงินจริง
หลังจากจ่ายเงินไปแล้ว ก็ได้เรียนจริงจังครับ ช่วงแรกลูกก็ตื่นเต้นดี ชอบคุยกับครูต่างชาติ แต่พอเรียนไปสักพัก ก็มีบ้างที่เค้าเริ่มเบื่อๆ หรือไม่อยากเรียน อันนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติของเด็กนะ เราก็ต้องคอยกระตุ้น คอยหาอะไรใหม่ๆ มาเสริม
สิ่งที่ผมสังเกตเห็น:
- คุณภาพครู: ครูส่วนใหญ่ที่เจอมาก็โอเคนะครับ มีความเป็นมืออาชีพ สอนสนุก แต่ก็มีบ้างที่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยเข้ากับลูกเราเท่าไหร่ อันนี้ก็ต้องลองเปลี่ยนครูดู
- ความสม่ำเสมอ: การเรียนภาษาต้องอาศัยความสม่ำเสมอครับ ถ้าเรียนบ้างไม่เรียนบ้าง มันก็ไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ อันนี้ผู้ปกครองต้องมีวินัยช่วยดูแลด้วย
- เนื้อหาบทเรียน: เนื้อหาก็มีหลากหลายดีครับ เหมาะกับวัยของเค้า แต่บางทีก็รู้สึกว่ามันซ้ำๆ ไปหน่อย อาจจะต้องหาอะไรเสริมจากข้างนอกบ้าง
สรุปแล้ว Palfish คุ้มค่ากับราคาไหม?
ถ้าถามผมตรงๆ นะครับ ว่า Palfish คุ้มค่ากับราคาไหม ผมว่ามัน ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวจริงๆ ครับ
ข้อดีที่เห็นชัดๆ:
- ลูกได้ฝึกพูดคุยกับเจ้าของภาษาจริงๆ อันนี้หาได้ยากถ้าไม่ได้เรียนอินเตอร์ หรือมีโอกาสพิเศษ
- สะดวกสบาย เรียนที่ไหนก็ได้ แค่มีอินเทอร์เน็ตกับมือถือหรือแท็บเล็ต
- มีกิจกรรมหลากหลายในแอป ไม่ได้มีแค่เรียนอย่างเดียว
ข้อที่ต้องพิจารณาเรื่องราคา:
- ราคาสูง ถ้าเทียบกับทางเลือกอื่นๆ บางทีอาจจะต้องตัดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นออกไป
- ต้องจ่ายเป็นก้อนใหญ่สำหรับแพ็กเกจที่คุ้มค่า
- ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับตัวเด็กและความสม่ำเสมอด้วย ไม่ใช่ว่าจ่ายเงินแล้วลูกจะเก่งภาษาขึ้นมาทันที
ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าเรามีงบประมาณพอไหว และอยากให้ลูกได้มีประสบการณ์การเรียนกับครูต่างชาติ Palfish ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ แต่ก็ต้องทำใจไว้หน่อยว่ามันไม่ใช่ยาวิเศษ ทุกอย่างต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากทั้งตัวเด็กและผู้ปกครองด้วย
สุดท้ายนี้ ผมก็หวังว่าประสบการณ์ที่ผมแชร์ไป จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับ Palfish โดยเฉพาะเรื่องราคานะครับ ลองเอาไปพิจารณากันดูครับผม!