สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เกี่ยวกับเรื่องที่หลายคนอาจจะกำลังสงสัย หรืออยากรู้รายละเอียดอยู่ นั่นก็คือเรื่อง “ค่าเรียน PalFish” นี่แหละครับ พอดีผมเองก็เพิ่งผ่านกระบวนการหาข้อมูล ลองผิดลองถูกมาสักพัก จนพอจะจับต้นชนปลายได้ เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังแบบบ้านๆ นะครับ
เริ่มจากความสนใจล้วนๆ
เรื่องของเรื่องคือ ลูกผมเริ่มโตพอที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ แล้ว ผมก็เลยมองหาคลาสเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้เขาดูหลายเจ้าเลย จนมาเจอ PalFish นี่แหละ เห็นคนพูดถึงกันเยอะอยู่เหมือนกัน ตอนแรกก็งงๆ นะครับ ว่ามันเป็นยังไง ค่าเรียนจะแพงไหม คุ้มหรือเปล่า คำถามเต็มหัวไปหมด
ลงมือค้นหาข้อมูลจริงจัง
ผมก็เริ่มจากการลองเข้าไปดูในแอปพลิเคชันของเขาเลยครับ พยายามทำความเข้าใจระบบต่างๆ ของเขา ซึ่งเอาจริงๆ ตอนแรกก็มีมึนๆ บ้าง เพราะมันมีหลายส่วน หลายคอร์สให้เลือก ดูเหมือนว่าค่าเรียนมันไม่ได้มีราคาเดียวตายตัว แต่มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเลยครับ
สิ่งที่ผมพยายามทำความเข้าใจหลักๆ ก็คือ:
- ประเภทของครู: อันนี้สำคัญเลยครับ เพราะเขามีทั้งครูที่เป็นเจ้าของภาษา (Native Speaker) กับครูชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งแน่นอนว่าเรทราคามันก็จะต่างกันอยู่แล้ว
- ประเภทของคอร์สเรียน: PalFish เขาก็มีคอร์สหลักสูตรที่เป็นทางการของเขา กับแบบที่เป็น Free Talk หรือการพูดคุยอิสระ ซึ่งตรงนี้ค่าใช้จ่ายก็ไม่เท่ากันอีก
- ระยะเวลาของคลาส: ปกติคลาสหนึ่งก็จะประมาณ 25 นาที แต่ถ้าเราซื้อเป็นแพ็กเกจใหญ่ๆ หรือเรียนต่อเนื่องนานๆ บางทีก็อาจจะมีส่วนลด หรือโปรโมชั่นอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง
- แพ็กเกจที่เลือก: อันนี้ชัดเจนเลยครับ ยิ่งซื้อจำนวนคลาสเยอะ ราคาต่อคลาสเฉลี่ยมันก็อาจจะถูกลงมาหน่อย เหมือนซื้อของยกโหลอะไรประมาณนั้นแหละครับ
ประสบการณ์ส่วนตัวในการตัดสินใจ
หลังจากที่พยายามทำความเข้าใจโครงสร้างราคาคร่าวๆ แล้ว ผมก็เริ่มคิดว่าจะเอาแบบไหนดีให้เหมาะกับลูกเรา แล้วก็งบประมาณที่เราตั้งไว้ด้วย ตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกันครับว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี
ผมลองดูพวกคลาสทดลองเรียนก่อนเลยครับ (ถ้ามีช่วงโปรโมชั่นนะ) เพื่อให้ลูกได้ลองสัมผัสบรรยากาศการเรียนจริงๆ ว่าชอบไหม ครูสอนเป็นยังไง พอได้ลองแล้วก็ค่อยมาตัดสินใจอีกทีว่าจะไปต่อกับคอร์สไหน
สำหรับผมนะ ผมมองว่าการเลือกครูค่อนข้างสำคัญ ลูกเราเข้ากับครูคนไหน สไตล์การสอนแบบไหนที่ลูกเราโอเค อันนี้ต้องสังเกตดูเลยครับ เพราะถ้าลูกแฮปปี้ การเรียนมันก็จะได้ผลดี
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย เอาจริงๆ มันก็แล้วแต่เราจะจัดสรรเลยครับ ถ้าอยากได้ครูเจ้าของภาษาเต็มรูปแบบ ราคาก็อาจจะสูงขึ้นมาหน่อย แต่ถ้ามองว่าอยากให้ลูกได้ฝึกพูดคุยบ่อยๆ ไม่ได้เน้นสำเนียงเป๊ะเว่อร์ ครูฟิลิปปินส์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แล้วราคาก็จะย่อมเยาลงมาเยอะ
สรุปแล้วเป็นยังไงบ้าง
สุดท้ายแล้ว ผมก็เลือกแพ็กเกจที่คิดว่าเหมาะสมกับลูกตัวเองที่สุด โดยพิจารณาทั้งประเภทครู จำนวนครั้งที่เรียน แล้วก็งบประมาณของเราด้วยครับ มันอาจจะไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัวว่าต้องเลือกแบบไหนถึงจะดีที่สุด เพราะแต่ละครอบครัว แต่ละคนก็มีความต้องการไม่เหมือนกัน
สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือ ให้ลองศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนครับ ดูว่า PalFish เขามีตัวเลือกอะไรให้เราบ้าง แล้วก็ลองประเมินความต้องการของตัวเองดู จากนั้นค่อยๆ ตัดสินใจเลือกสิ่งที่คิดว่าคุ้มค่าและเหมาะสมที่สุดสำหรับเราครับ
หวังว่าประสบการณ์ที่ผมเอามาแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาข้อมูลเรื่องค่าเรียน PalFish อยู่นะครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดูได้เลยครับ!