สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ที่ผมได้ไปลองคลุกคลีมากับเรื่อง ราคา Palfish เนี่ยแหละครับ หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อแอปนี้กันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะคนที่อยากให้ลูกๆ ฝึกภาษาอังกฤษ หรือแม้แต่คนที่อยากหารายได้เสริมจากการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ ผมเองก็เป็นคนนึงที่สงสัยว่าเอ๊ะ มันทำงานยังไง ราคาเป็นแบบไหน วันนี้จะมาเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นเลยครับ
เริ่มต้นจากความสงสัยล้วนๆ
คือตอนแรกเลยเนี่ย ผมก็ได้ยินคนพูดถึง Palfish กันเยอะพอสมควร ทั้งในกลุ่มผู้ปกครอง ทั้งในกลุ่มคนที่มองหางานสอนออนไลน์ ก็เลยเกิดความอยากรู้ขึ้นมาว่าไอ้เจ้า Palfish เนี่ย มันคิดเรทราคากันยังไงนะ ถ้าเราจะให้ลูกเรียนมันจะคุ้มไหม หรือถ้าเราอยากจะลองไปเป็นครูสอนในนั้นบ้าง มันจะได้เงินประมาณไหน คำถามเต็มหัวไปหมดเลยครับ
ลงมือค้นหาและทำความเข้าใจ
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าครับ ผมเริ่มจากการลองโหลดแอป Palfish มาดูก่อนเลย ลองจิ้มๆ กดๆ ดูเมนูต่างๆ ว่ามีอะไรบ้าง อ่านข้อมูลที่เขาให้มาในแอป แต่บอกตามตรงว่าตอนแรกก็ยังงงๆ อยู่บ้างครับ ข้อมูลบางส่วนก็ไม่ได้บอกไว้ชัดเจนเป๊ะๆ ว่าราคาเท่านั้นเท่านี้
ผมก็เลยต้องไปสืบค้นเพิ่มเติมครับ ลองเสิร์ชหาข้อมูลจากคนที่เคยใช้งานจริง ทั้งจากฝั่งผู้ปกครองที่ให้ลูกเรียน และจากฝั่งคุณครูที่สอนอยู่ในนั้นด้วย ก็เริ่มค่อยๆ เห็นภาพรวมมากขึ้นครับว่าราคา Palfish เนี่ยมันมีหลายปัจจัยมากๆ ที่เกี่ยวข้อง
สิ่งที่ผมค้นพบเกี่ยวกับ ราคา Palfish
จากการที่ไปสืบเสาะมา ผมพอจะสรุปสิ่งที่ตัวเองเข้าใจเกี่ยวกับราคาของ Palfish ได้ประมาณนี้ครับ:
- ราคาสำหรับนักเรียน: อันนี้จะค่อนข้างหลากหลายเลยครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกเรียนคอร์สแบบไหน เช่น
- Official Kids Course (OKC): อันนี้เหมือนเป็นคอร์สหลักของเขาเลย ราคาจะค่อนข้างมีมาตรฐานหน่อย อาจจะมีเป็นแพ็กเกจเรียนกี่ครั้งก็ว่าไป ราคาก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนคลาสและประเภทครูที่เราเลือกด้วยครับ เช่น ครูที่เป็นเจ้าของภาษา (Native Speaker) ราคาก็อาจจะสูงกว่าครูจากประเทศอื่นๆ หน่อย
- Free Talk: อันนี้จะเหมือนเป็นการเรียนแบบพูดคุยอิสระ ครูบางคนก็อาจจะตั้งราคาต่อนาที หรือต่อคลาสที่ยืดหยุ่นกว่า ส่วนใหญ่ผู้ปกครองก็จะให้ลูกๆ เรียนเพื่อฝึกการสนทนาทั่วๆ ไป
- โปรแกรมอื่นๆ: นอกจากนี้ก็อาจจะมีโปรแกรมเสริม หรือคลาสพิเศษต่างๆ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไปอีกครับ
- รายได้สำหรับคุณครู: ฝั่งคุณครูเองก็มีโครงสร้างรายได้ที่ต่างกันไปอีกครับ
- ครูใน Official Kids Course: ปกติแล้ว Palfish จะมีเรทพื้นฐานให้ ซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นได้ตามคุณสมบัติ ประสบการณ์ หรือคะแนนรีวิวจากนักเรียนครับ บางทีก็มีโบนัสพิเศษให้ด้วยถ้าทำตามเป้าที่เขากำหนด
- ครู Free Talk: ส่วนใหญ่ครู Free Talk จะสามารถตั้งเรทราคาของตัวเองได้ในระดับหนึ่งครับ แต่ก็ต้องแข่งขันกับครูคนอื่นๆ ด้วย ถ้าตั้งสูงไปก็อาจจะไม่มีนักเรียน ถ้าตั้งต่ำไปก็อาจจะไม่คุ้มเหนื่อย
- ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อรายได้ครู: นอกจากประเภทคลาสแล้ว จำนวนชั่วโมงที่สอน ความสม่ำเสมอในการเปิดสอน การมีโปรไฟล์ที่น่าสนใจ รูปภาพ วิดีโอแนะนำตัวดีๆ ก็มีผลทำให้ครูมีโอกาสได้นักเรียนมากขึ้น และนั่นก็หมายถึงรายได้ที่มากขึ้นตามไปด้วยครับ
ลองผิดลองถูกและข้อสังเกตส่วนตัว
ผมเองก็ไม่ได้ลองไปเป็นครูสอนจริงๆ จังๆ นะครับ แต่จากการที่ได้ลองสมัครเข้าไปดูในส่วนของครู และศึกษาข้อมูลต่างๆ ก็พอจะเห็นภาพว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้เรทราคาสูงๆ ตั้งแต่แรก มันต้องอาศัยความพยายาม การสร้างโปรไฟล์ และการสอนที่มีคุณภาพจริงๆ
ส่วนในมุมของผู้ปกครอง ผมว่าการเลือกคอร์สให้ลูกก็ต้องดูให้ดีครับว่าลูกเราเหมาะกับแบบไหน งบประมาณเรามีเท่าไหร่ ลองดูรีวิวครูแต่ละคนเยอะๆ ก่อนตัดสินใจก็ดีครับ บางทีครูที่ราคาไม่สูงมาก แต่สอนดี เข้ากับลูกเราได้ ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีก็ได้
มีอยู่อย่างนึงที่ผมสังเกตคือ ราคา Palfish มันไม่ได้ตายตัวเสมอไป บางช่วงก็อาจจะมีโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ทั้งสำหรับนักเรียนใหม่ หรือสำหรับครูที่ทำผลงานได้ดี มันเลยเป็นอะไรที่เราต้องคอยติดตามข่าวสารจากในแอปอยู่เรื่อยๆ ครับ
สรุปจากประสบการณ์ที่ได้ลองมา
โดยรวมแล้ว จากที่ผมได้ลองไปศึกษาเรื่อง ราคา Palfish มาทั้งหมด ผมคิดว่ามันเป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นพอสมควรเลยครับ ทั้งสำหรับคนที่อยากให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษ หรือคนที่อยากจะสอนเพื่อหารายได้เสริม ราคาของมันมีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมากๆ อย่างที่เล่าไปข้างต้น
ถ้าจะให้แนะนำก็คือ ต้องลองเข้าไปดูด้วยตัวเองครับ ลองศึกษาข้อมูลในแอป อ่านรีวิว หรือถ้าเป็นไปได้ก็ลองทดลองเรียนคลาสสั้นๆ ดูก่อน เพื่อให้เห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่ามันคุ้มค่ากับเราไหม ทั้งในแง่ของเงินที่จ่ายไป หรือเวลาและแรงที่เราจะลงไปครับ หวังว่าข้อมูลที่ผมแชร์ในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังสนใจเรื่อง ราคา Palfish อยู่นะครับ!