สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมกับการทำงาน PalFish ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านๆ หรือกำลังสงสัยอยู่ว่ามันดีจริงไหม คุ้มค่าเหนื่อยรึเปล่า โดยเฉพาะคนที่ไปส่องๆ ตามกระทู้ในพันทิปมาบ้างแล้ว
จุดเริ่มต้นของผมกับ PalFish
เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นผมกำลังมองหางานเสริมที่ทำจากที่บ้านได้ แล้วก็ไปเจอคนพูดถึง PalFish ในกลุ่มเฟซบุ๊กนี่แหละครับ ตอนแรกก็เอ๊ะ มันคืออะไรนะ ก็เลยลองไปค้นๆ ดู เห็นว่าเป็นแอปสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ ชาวจีน ฟังดูน่าสนใจดี ไม่ต้องเดินทาง แถมเวลาค่อนข้างยืดหยุ่น

ขั้นตอนการสมัคร ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าจะยุ่งยากอะไรมาก แต่เอาเข้าจริงก็มีหลายขั้นตอนอยู่นะครับ ต้องเตรียมเอกสารนู่นนี่นั่น ทั้งสำเนาบัตรประชาชน, วุฒิการศึกษา, ใบรับรองการสอน (ถ้ามี เช่น TEFL) แล้วก็ต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ ส่งไปด้วย หลังจากนั้นก็มีการสัมภาษณ์นิดหน่อย แล้วก็มีให้ลองสอนเดโมคลาสครับ ตรงนี้แอบตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะไม่เคยสอนออนไลน์แบบจริงจังมาก่อน แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ลงสนามจริง สอนเด็กๆ
พอได้เข้ามาเป็นครูในระบบแล้ว แรกๆ ก็ยังงงๆ กับตัวแอปอยู่บ้างครับ ว่าจะเปิดคลาสยังไง ดูตารางสอนตรงไหน แต่ใช้ไปสักพักก็เริ่มชินเอง PalFish เนี่ยหลักๆ จะมีสองแบบคือ Free Talk ที่เราคุยเล่นกับนักเรียนได้เลย กับ Official Kids Course (OKC) ที่จะมีบทเรียนมาให้เราสอนตามสไลด์ อันนี้จะสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะเลยครับ
ช่วงแรกๆ ที่เปิดสอนใหม่ๆ นักเรียนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ ต้องอาศัยความขยันเปิดสล็อตเวลาให้เยอะๆ โดยเฉพาะช่วงเย็นๆ หลังเลิกเรียนของเด็กจีน กับวันเสาร์-อาทิตย์ อันนี้จะเป็นช่วงพีคเลย นักเรียนจะเยอะมาก
บรรยากาศการสอน ส่วนใหญ่เด็กๆ ก็น่ารักดีครับ บางคนก็ซนบ้างตามประสาเด็ก แต่โดยรวมแล้วสนุกดี ได้เห็นพัฒนาการของเขา จากที่พูดไม่ได้เลยจนเริ่มพูดเป็นคำๆ เป็นประโยคได้ มันก็รู้สึกภูมิใจนะ แต่ก็มีบ้างที่เจอผู้ปกครองคาดหวังสูง หรือบางทีเด็กไม่ให้ความร่วมมือเลย อันนี้ก็ต้องใช้ความอดทนและทักษะในการจัดการสถานการณ์พอสมควรเลยล่ะครับ
เรื่องสื่อการสอน ส่วนใหญ่ทาง PalFish เขาก็มีเตรียมไว้ให้แล้วในคอร์ส OKC เราแค่เตรียมตัวสอนตามนั้น แต่ถ้าเป็น Free Talk เราก็ต้องหาเรื่องคุย ชวนคุยเอง ซึ่งตรงนี้ก็เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งเหมือนกัน

เรื่องเงินๆ ทองๆ และรายได้
มาถึงเรื่องสำคัญที่หลายคนอยากรู้ นั่นก็คือเรื่องรายได้ PalFish จะจ่ายเป็นรายนาทีที่เราสอนครับ เรทเริ่มต้นอาจจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ถ้าเราทำผลงานดี มีรีวิวดีๆ จากผู้ปกครอง คะแนนเราก็จะสูงขึ้น เรทต่อนาทีก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ก็มีโบนัสเล็กๆ น้อยๆ บ้างถ้าเราทำตามเป้าที่เขากำหนด
การรับเงิน เขาจะโอนเข้าบัญชี Payoneer ของเราครับ แล้วเราก็ค่อยโอนจาก Payoneer เข้าบัญชีธนาคารในไทยอีกทีนึง ก็อาจจะมีค่าธรรมเนียมบ้างนิดหน่อยตอนโอนเงิน
ถามว่ารายได้ดีไหม? ผมว่ามันขึ้นอยู่กับความขยันของเราเลยครับ ถ้าเราเปิดสอนเยอะ มีนักเรียนประจำเยอะ รายได้ก็โอเคเลยนะ สามารถเป็นรายได้เสริมที่ดีได้เลย แต่ถ้าเดือนไหนขี้เกียจ หรือมีธุระเยอะ ไม่ค่อยได้เปิดสอน รายได้มันก็จะน้อยตามไปด้วยครับ มันไม่ได้การันตีรายได้ที่แน่นอนทุกเดือนเหมือนงานประจำ
ข้อควรระวัง คือเรื่องการยกเลิกคลาส หรือการมาสาย อันนี้โดนหักเงินจริงจังนะครับ ต้องตรงต่อเวลามากๆ แล้วก็ถ้าอินเทอร์เน็ตมีปัญหาบ่อยๆ ก็อาจจะกระทบกับการสอนได้
สรุปจากประสบการณ์ส่วนตัว
สำหรับผมแล้ว การทำงานกับ PalFish ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียปนๆ กันไปครับ
ข้อดีที่ผมชอบ:
- ความยืดหยุ่น: เลือกเวลาสอนเองได้ ทำงานจากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต
- ไม่ต้องเดินทาง: ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน
- ได้ฝึกภาษา: ได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลาที่สอน ก็เป็นการฝึกฝนตัวเองไปในตัว
- ได้เจอคนใหม่ๆ: ได้คุยกับเด็กๆ จากต่างวัฒนธรรม ก็สนุกดีครับ
ข้อที่อาจจะต้องพิจารณา:
- รายได้ไม่แน่นอน: ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงที่เราสอน และจำนวนนักเรียน
- การแข่งขัน: มีครูคนอื่นๆ ในระบบเยอะเหมือนกัน ต้องพยายามสร้างโปรไฟล์ให้น่าสนใจ
- ความเหนื่อยล้า: บางทีสอนติดๆ กันหลายชั่วโมงก็มีอาการเสียงแหบ หรือเหนื่อยได้เหมือนกัน
- กฎระเบียบ: มีกฎระเบียบของแพลตฟอร์มที่เราต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ถามว่า ทำงาน PalFish ดีไหม? สำหรับผมมองว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากหารายได้เสริม มีเวลาว่างไม่แน่นอน หรืออยากลองประสบการณ์สอนออนไลน์ แต่ถ้าจะให้ยึดเป็นอาชีพหลักเลย อาจจะต้องทุ่มเทเวลาและพลังงานค่อนข้างมากเพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคงครับ
ใครที่กำลังสนใจ ผมแนะนำว่าลองศึกษาข้อมูลให้ดีๆ เตรียมตัวเรื่องภาษาและอุปกรณ์ให้พร้อม แล้วก็ลองสมัครดูครับ ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นแน่นอน หวังว่าที่ผมแชร์ไปจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ!