สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่ได้ไปลองเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในแอปที่ชื่อว่า Palfish ดูครับ เห็นคนพูดถึงกันเยอะ เลยอยากรู้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่ ก็เลยตัดสินใจลองสมัครดูเลย
เริ่มต้นกับการสมัคร Palfish
ตอนแรกที่เข้าไปดูในแอป ก็ดูน่าสนใจดีนะ มีทั้งแบบสอนเด็กเล็ก สอนผู้ใหญ่ แต่ผมเน้นไปที่การสอนเด็กๆ เพราะเห็นว่าน่าจะสนุกดี ขั้นตอนการสมัครนี่ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากนะครับ ต้องเตรียมเอกสารพอสมควรเลย ทั้งรูปถ่าย สำเนาบัตรประชาชน ใบรับรองการสอน (ถ้ามีก็จะดีมาก) แล้วก็ต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษด้วย ตอนอัดวิดีโอนี่ก็เขินๆหน่อย ไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้ ฮ่าๆ
หลังจากส่งเอกสารทุกอย่างครบถ้วนแล้ว ก็ต้องรอทางแอปเค้าอนุมัติครับ ช่วงรอนี่นานเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าจะผ่านรึเปล่า ตอนนั้นก็คิดเผื่อใจไว้แล้วว่าถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถือว่าลองดู แต่สุดท้ายก็มีอีเมลแจ้งมาว่าผ่านการอนุมัติแล้ว ดีใจสิครับ รออะไร!
ประสบการณ์การสอนจริง และเรื่องจุกจิกที่เจอ
พอผ่านอนุมัติปุ๊บ ผมก็เริ่มตั้งค่าโปรไฟล์ตัวเอง ใส่เรทราคา เวลาที่สะดวกสอน ตอนแรกๆ ก็เงียบกริบเลยครับ ไม่มีใครทักมาเลย ฮ่าๆ คิดในใจว่าสงสัยจะรอดไหมเนี่ย แต่ก็พยายามเข้าไปดูในกลุ่มของครูในแอป เค้าก็มีแนะนำเทคนิคต่างๆ เช่น ให้ลองไลฟ์สดสั้นๆ หรือทำโปรไฟล์ให้น่าสนใจ ผมก็ลองทำตามดู
สักพักก็เริ่มมีผู้ปกครองชาวจีนทักเข้ามาถามรายละเอียดบ้าง แล้วก็มีคนเริ่มจองคลาสเรียน ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กจริงๆ ครับ อายุประมาณ 3-7 ขวบ เด็กๆ ก็น่ารักดีนะ แต่บางทีก็ซนไม่ใช่เล่นเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งกำลังสอนๆ อยู่ เด็กก็ลุกวิ่งไปรอบห้องเลยจ้า ผมนี่ต้องรีบหาอะไรมาดึงความสนใจเค้ากลับมาที่หน้าจอให้ได้ ก็ทุลักทุเลกันไป สนุกดีไปอีกแบบ
เรื่องการเตรียมการสอนนี่ก็สำคัญมากครับ ถึงแม้บางทีแอปจะมีสื่อการสอนมาให้บ้าง แต่ถ้าเราเตรียมของเราเองไปด้วย มันจะทำให้การสอนราบรื่นขึ้นเยอะ แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับเด็กแต่ละคนด้วย เพราะสไตล์การเรียนรู้เค้าไม่เหมือนกัน
ปัญหาที่เจอบ่อยๆ ก็คงเป็นเรื่องของสัญญาณอินเทอร์เน็ตครับ บางทีเน็ตเราดี แต่เน็ตทางฝั่งนักเรียนไม่ค่อยเสถียร ภาพก็ค้าง เสียงก็ขาดๆ หายๆ ก็ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ แก้ปัญหากันไป
ส่วนเรื่องรายได้ ถ้าถามว่าได้เงินจริงไหม ก็ได้จริงครับ เค้าจะโอนเข้าบัญชีที่เราผูกไว้ แต่เรทราคามันก็ไม่ได้สูงมากนะ ถ้าเทียบกับเวลาและแรงที่เราต้องเตรียมตัว ต้องสอน ต้องแอคทีฟตอบคำถามผู้ปกครองอีก คือถ้าจะให้ได้เป็นกอบเป็นกำจริงๆ ก็ต้องมีชั่วโมงสอนเยอะมากๆ ซึ่งมันก็เหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
อีกอย่างที่รู้สึกคือ มันเหมือนเราต้องสแตนด์บายตลอดเวลา กลัวพลาดข้อความจากผู้ปกครอง หรือพลาดโอกาสในการจองคลาสใหม่ๆ บางทีก็รู้สึกว่ามันกินเวลาส่วนตัวไปเหมือนกันนะ
สรุปแล้ว Palfish เป็นยังไง?
สำหรับผมนะ Palfish ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหารายได้เสริมที่ดีครับ โดยเฉพาะกับคนที่รักการสอนเด็กเล็ก มีเวลาว่างเป็นช่วงๆ แล้วก็อยากฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองไปด้วย เพราะต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษตลอด
แต่ถ้าใครคิดจะทำเป็นอาชีพหลักเลย อาจจะต้องทุ่มเทเวลาเยอะมากๆ แล้วก็ต้องเตรียมใจกับเรื่องจุกจิกต่างๆ ที่อาจจะเจอด้วยครับ มันไม่ได้สวยหรูเหมือนในโฆษณาเสมอไปหรอกนะ มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียปนๆ กันไป
ผมเองตอนนี้ก็ไม่ได้สอนใน Palfish เป็นประจำแล้วครับ นานๆ ทีถ้ามีเวลาว่างจริงๆ หรืออยากสอนสนุกๆ ก็จะเปิดรับบ้าง แต่ไม่ได้คาดหวังรายได้จากตรงนี้เป็นหลักแล้ว ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครั้งหนึ่งที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ครับ ใครสนใจก็ลองไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วก็ลองสมัครดูได้ ไม่เสียหายอะไรครับ