สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยที่ได้ไปคลุกคลีสอนภาษาอังกฤษให้เด็ก ป.3 มา คือแบบ… อยากเล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มเลยว่าทำอะไรไปยังไงบ้าง
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
คือเรื่องมันเริ่มจากลูกชายผมเองนี่แหละครับ อยู่ ป.3 แล้วรู้สึกว่าแกยังไม่ค่อยมั่นใจเวลาพูดภาษาอังกฤษเลย การบ้านงี้บางทีก็ทำหน้ามึนใส่ ผมก็เลยคิดว่า เอ้อ! ในฐานะพ่อเนี่ย ลองลุยเองดูซักตั้งดีกว่า เผื่อจะช่วยให้ลูกสนุกกับภาษามากขึ้น
เตรียมตัวยังไงบ้าง?
อย่างแรกเลยนะ ผมก็ไปเดินด้อมๆ มองๆ ตามร้านหนังสือเลยครับ ไปดูว่าหนังสือเด็ก ป.3 เขาสอนอะไรกันบ้าง เนื้อหาประมาณไหน แล้วก็ไปค้นหาพวกสื่อการสอนจากในเน็ต พวกรูปภาพสีสวยๆ บัตรคำศัพท์น่ารักๆ อะไรพวกนี้ เตรียมไว้เยอะเหมือนกันนะ คิดว่าเด็กๆ น่าจะชอบอะไรที่มีสีสัน
แล้วก็วางแผนคร่าวๆ ว่าจะเริ่มจากอะไรง่ายๆ ก่อน เช่น
- คำศัพท์หมวดใกล้ตัว: สัตว์ สี ผลไม้ ของใช้ในห้องเรียน
- ประโยคทักทายง่ายๆ: Hello, Goodbye, How are you?
- เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก: อันนี้ช่วยได้เยอะเลย เด็กชอบร้องตาม
ไม่ได้มีหลักการอะไรตายตัวมากครับ เน้นว่าอยากให้ลูก (และเพื่อนๆ ลูกอีกสองสามคนที่มาแจมด้วย) รู้สึกว่าภาษาอังกฤษมันไม่น่าเบื่อ
ลงมือสอนจริง! เป็นไงล่ะทีนี้
พอถึงเวลาสอนจริง บอกเลยว่า มันไม่ง่ายเหมือนที่คิดไว้ตอนแรก! เด็ก ป.3 นี่พลังงานเยอะมากกกก สมาธิก็จะสั้นหน่อยๆ เราต้องหากิจกรรมให้เขาทำตลอดเวลาเลย
ช่วงแรกๆ ผมเริ่มจากเอาบัตรคำศัพท์รูปสัตว์มาให้ทาย ให้พูดตาม แล้วก็มีเกมง่ายๆ เช่น ชี้ไปที่ภาพแล้วถาม “What is it?” เด็กๆ ก็จะแย่งกันตอบ สนุกกันใหญ่เลย ผมสังเกตว่าถ้ามีอะไรให้เขาได้ขยับตัว หรือได้แข่งขันกันเล็กๆ น้อยๆ เนี่ย เขาจะตื่นตัวมาก
มีอยู่วันนึงลองสอนเรื่องสี ก็เอาสีเทียนมาให้คนละกล่อง แล้วบอกคำศัพท์สีเป็นภาษาอังกฤษ ให้เขาระบายสีลงกระดาษตามที่เราบอก เช่น “Color it red!” “Color it blue!” โอ้โห เละเทะแต่สนุกครับ เด็กๆ จำสีได้แม่นเลยวันนั้น
เรื่องเพลงนี่ก็เป็นอีกอย่างที่เวิร์คมาก ผมไปเจอเพลงเด็ก ป.3 ง่ายๆ ที่มีท่าเต้นประกอบด้วย เปิดให้เขาดูแล้วก็ชวนเต้นตามกัน ทั้งร้องทั้งเต้น ได้ออกกำลังกาย แถมจำศัพท์จากเพลงได้อีกต่างหาก
แต่ก็มีบางวันที่เด็กๆ ดูเบื่อๆ นะครับ เตรียมอะไรไปก็ดูไม่ค่อยสนใจ วันนั้นก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเลย บางทีก็เปลี่ยนไปเล่านิทานภาษาอังกฤษง่ายๆ แบบมีรูปประกอบเยอะๆ หรือไม่ก็ให้วาดรูปตามจินตนาการแล้วให้ลองบอกเป็นภาษาอังกฤษดูว่าวาดอะไรมาบ้าง ถึงจะพูดได้คำสองคำก็ยังดี
สิ่งที่ค้นพบจากการสอนครั้งนี้
ผมว่าการสอนเด็กเล็กเนี่ย ความอดทนสำคัญสุดๆ เลยครับ แล้วก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของเขาด้วยว่าวัยนี้เขาชอบเล่น ไม่ชอบอะไรที่มันเป็นทางการมากไป การบังคับให้ท่องจำอย่างเดียวไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่
อีกอย่างที่ผมรู้สึกคือ การสร้างบรรยากาศให้มันสนุกสนาน ไม่เครียด ทำให้เด็กกล้าที่จะพูด กล้าที่จะลองผิดลองถูก พอเขาทำได้เราก็ชมเชย ให้กำลังใจเขาเยอะๆ
ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แค่อยากให้ลูกรู้สึกดีกับภาษาอังกฤษ แต่พอทำไปทำมา เห็นลูกเริ่มฮัมเพลงภาษาอังกฤษได้เอง เริ่มกล้าทักทายครูฝรั่งที่โรงเรียน หรือเวลาเห็นป้ายภาษาอังกฤษง่ายๆ แล้วพยายามอ่านเนี่ย เออ… มันรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ เหมือนสิ่งที่เราพยายามทำมันเริ่มเห็นผลเล็กๆ แล้ว
นี่ก็เป็นประสบการณ์คร่าวๆ ที่อยากเอามาแชร์นะครับ เผื่อคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากลองเอาไปปรับใช้กับลูกๆ ที่บ้านดู ไม่ต้องเก่งภาษาอังกฤษมากก็ได้ครับ แค่เราใส่ใจแล้วก็สนุกไปกับเขา ผมว่าเด็กๆ สัมผัสได้แน่นอน