สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลยกับการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เนี่ยแหละครับ เอาจริงๆ นะ ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะมาทางนี้ได้ แต่พอสถานการณ์มันบังคับ บวกกับความอยากพัฒนาตัวเองด้วย เลยต้องลองดูซักตั้ง
จุดเริ่มต้นและความงงงวย
คือเรื่องมันเริ่มจากที่ผมรู้สึกว่าภาษาอังกฤษตัวเองนี่มันช่างง่อยเปลี้ยเสียขาเหลือเกิน เวลาต้องติดต่องานกับต่างชาติทีไรนี่เหงื่อแตกพลั่กๆ หรือแม้แต่จะดูหนังฟังเพลงให้มันอินๆ ก็ยังติดๆ ขัดๆ ผมก็เลยคิดว่า เอ้อ… ไม่ได้การละ ต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว
ทีนี้พอลองเสิร์ชหาข้อมูลในเน็ตดู โอ้โห… คอร์สเรียนออนไลน์นี่มันเยอะแยะตาลายไปหมด มีทั้งแบบฟรี แบบเสียเงิน แบบสอนสด แบบเป็นวิดีโอ แบบเน้นแกรมมาร์ แบบเน้นพูด ผมนี่นั่งเกาหัวแกรกๆ เลยครับ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ
ลองผิดลองถูกสารพัด
ช่วงแรกๆ ผมก็ลองมั่วๆ ไปก่อนครับ เห็นแอปไหนฟรีก็โหลดมาลองเล่นดู ก็ได้ศัพท์ใหม่ๆ บ้างนะ แต่พอจะเอาไปใช้พูดจริงๆ มันก็ยังติดๆ ขัดๆ เหมือนเดิม คือมันไม่ได้ฟีลเหมือนคุยกับคนจริงๆ น่ะครับ
จากนั้นก็ลองไปดูคลิปสอนภาษาอังกฤษในยูทูบ มีเยอะมาก ทั้งครูไทย ครูฝรั่ง บางช่องก็สอนดี เข้าใจง่าย แต่ปัญหามันอยู่ที่ตัวผมเองนี่แหละครับ คือมันไม่มีใครมาบังคับ ไม่มีตารางเรียนที่ชัดเจน ดูไปได้สองสามคลิปก็เริ่มขี้เกียจแล้วก็เลิกไปเอง ดองไว้เต็มเพลย์ลิสต์เลย ฮ่าๆ

ผมเริ่มคิดละว่า สงสัยแบบฟรีๆ หรือดูเองคงจะไม่รอดสำหรับผมแน่ๆ วินัยผมนี่มันต่ำเตี้ยเรี่ยดินจริงๆ เลยเริ่มมองหาคอร์สที่มันมีระบบ มีคนดูแล มีตารางสอนชัดเจนขึ้น
ค้นพบทางสว่าง (หรือเปล่า?)
หลังจากที่ลองผิดลองถูกมาซักพัก ผมก็เริ่มจับทางได้ว่าตัวเองน่าจะเหมาะกับการเรียนแบบที่มีคนสอนสดๆ มากกว่า จะได้มีปฏิสัมพันธ์ มีการถามตอบได้ทันที ผมก็เลยเริ่มมองหาแพลตฟอร์มที่สอนสดออนไลน์โดยเฉพาะ
- การเลือกแพลตฟอร์ม: ผมใช้เวลาพอสมควรเลยครับในการอ่านรีวิว เปรียบเทียบราคา ดูว่าสไตล์การสอนของแต่ละที่มันเหมาะกับเราไหม บางที่ก็ดูเป็นทางการไป บางที่ก็ดูเด็กๆ ไป สุดท้ายก็ไปเจอที่นึงที่ดูแล้วเออ…น่าจะโอเคสำหรับวัยทำงานอย่างเรา
- การจัดตารางเรียน: พอเลือกได้แล้วก็ต้องมาจัดตารางเรียนให้มันลงตัวกับเวลางานอีก อันนี้ก็เป็นอีกความท้าทายนึงเลยครับ ต้องพยายามเคลียร์งานให้เสร็จเพื่อที่จะได้มีสมาธิเรียนเต็มที่
- ความสม่ำเสมอ: อันนี้ผมว่าสำคัญที่สุดเลยนะ ต่อให้คอร์สดีแค่ไหน ครูเก่งยังไง แต่ถ้าเราขาดความสม่ำเสมอ มันก็ไม่เห็นผลหรอกครับ แรกๆ ก็มีท้อบ้าง ขี้เกียจบ้าง แต่ก็พยายามฮึดสู้ บอกตัวเองว่าจ่ายเงินไปแล้วนะโว้ย ต้องเอาให้คุ้ม!
สิ่งที่ได้เรียนรู้และผลลัพธ์
หลังจากที่กัดฟันเรียนมาได้ซักระยะ ผมก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงนะ จากที่เมื่อก่อนฟังฝรั่งพูดแทบไม่รู้เรื่องเลย ก็เริ่มจับใจความได้มากขึ้น กล้าที่จะพูดตอบโต้มากขึ้น ถึงแม้จะยังพูดผิดๆ ถูกๆ บ้าง แกรมมาร์ยังมั่วๆ อยู่ แต่ความมั่นใจมันมาเต็มครับ
ผมเริ่มสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น จากที่เคยรู้สึกว่าเป็นยาขม ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องท้าทายที่อยากจะเอาชนะให้ได้ การได้ลองใช้สิ่งที่เรียนมาในชีวิตประจำวันจริงๆ เช่น คุยกับเพื่อนต่างชาติ หรือแม้แต่คอมเมนต์เป็นภาษาอังกฤษในโซเชียล มันทำให้รู้สึกดีมากๆ เลยครับ
ตอนนี้ผมก็ยังเรียนอยู่นะครับ ยังไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ถือว่าพัฒนาขึ้นมาเยอะมาก อย่างน้อยก็พอจะเอาตัวรอดได้แล้วล่ะเวลาต้องใช้ภาษาอังกฤษ
บทสรุปจากประสบการณ์ตรง
สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ดีไหม ผมบอกเลยว่า ลองเลยครับ! มันอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินความพยายามของเราแน่นอน สิ่งสำคัญคือต้องหาแนวทางที่เหมาะกับตัวเองให้เจอ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีวินัยและความสม่ำเสมอ ครับผม
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจอยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองนะครับ สู้ๆ ครับ!