เอาล่ะ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลย กับการพยายามจะ พูดภาษาอังกฤษ ให้ได้เรื่องได้ราวกับเขาสักที คือมันเริ่มจากความรู้สึกแบบ… อึดอัดใจ เวลาอยากจะพูดอะไรแล้วมันติดอยู่ที่ปาก พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่ในหัวนี่คำศัพท์มันก็มีอยู่นะ แต่มันเรียบเรียงเป็นประโยคไม่ได้เว้ย!
จุดเริ่มต้นเลยนะ มันมาจาก…
คือผมเนี่ย เมื่อก่อนก็คิดว่าภาษาอังกฤษมันก็แค่เรียนๆ ในห้องเรียน ท่องศัพท์ จำแกรมมาร์ไปสอบก็น่าจะพอแล้วมั้ง แต่พอโตขึ้นมาทำงานบ้าง ไปเที่ยวบ้าง โอ้โห… ความคิดนั้นผิดถนัดเลย เจอฝรั่งมาถามทางง่ายๆ นี่ใบ้กินเลยจ้า อ้ำๆ อึ้งๆ อยากจะบอกทางใจจะขาด แต่ปากมันไม่ขยับตาม มันเป็นอะไรที่แบบ… เฟลสุดๆ เลยนะตอนนั้น
แล้วก็มีอีกรอบนึง ไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน เพื่อนมันพูดได้คล่องปรื๋อเลย ส่วนเราเหรอ… ได้แต่ยิ้มแหะๆ แล้วพยักหน้าตามน้ำไป สั่งข้าวยังต้องให้เพื่อนสั่งให้เลย มันรู้สึกเหมือนเป็นภาระเขายังไงก็ไม่รู้ กลับมาเลยตั้งปณิธานกับตัวเองว่า “กูต้องพูดอังกฤษให้ได้!”
ลงมือปฏิบัติการ งมเข็มในมหาสมุทร
ช่วงแรกลองผิดลองถูกเยอะมากครับ บอกเลยว่าเละเทะพอสมควร
- ซื้อหนังสือมาอ่าน: พวกแบบฝึกพูดภาษาอังกฤษใน 30 วันอะไรเทือกนั้น อ่านไปได้สองสามวันก็เบื่อแล้วอ่ะ มันเหมือนไม่ได้เอาไปใช้จริง
- โหลดแอปมาเล่น: แอปฝึกภาษานี่มีเต็มเครื่องเลยครับ กดๆจิ้มๆ ไปตามเรื่อง ก็พอได้คำศัพท์ใหม่ๆ บ้าง แต่พอจะให้พูดเป็นประโยคงี้… ก็ยังเหมือนเดิม
- ดูหนังฟังเพลง: อันนี้ทำอยู่แล้วเป็นปกติ แต่พยายามจะตั้งใจฟังมากขึ้น เริ่มจากดูซับไทยก่อน แล้วก็เปลี่ยนเป็นซับอังกฤษ หลังๆ ก็ลองแบบไม่มีซับเลย โอ้โห… รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แรกๆ นี่ปวดหัวตึ้บ แต่ก็เออ… มันก็พอจะจับใจความได้บ้างนะ
ปัญหาหลักๆ ของผมเลยนะ คือ ไม่มีคนให้ฝึกพูดด้วย นี่แหละ เรียนมาแทบตาย แต่พอไม่มีโอกาสได้ใช้จริง มันก็ลืมอยู่ดี แล้วก็ไอ้เรื่องความกลัวนี่ตัวดีเลย กลัวพูดผิด กลัวโดนหัวเราะ กลัวสำเนียงไม่ดี สารพัดจะกลัว คิดไปเองทั้งนั้น

จุดเปลี่ยนที่ทำให้เริ่มเห็นแสงสว่าง
มันมีอยู่ช่วงนึง ผมตัดสินใจแบบ… เอาวะ! ด้านได้อายอด! ลองหาเพื่อนต่างชาติคุยออนไลน์ดู แรกๆ ก็ตะกุกตะกักมาก พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก พูดไปก็ไม่มั่นใจในสำเนียงตัวเองเลย แต่ก็กัดฟันคุยไปเรื่อยๆ โชคดีเจอเพื่อนที่เขาใจเย็น แล้วก็พยายามทำความเข้าใจเรา
แล้วผมก็เริ่มเปลี่ยนความคิดใหม่ จากที่เคยพยายามจะพูดให้มัน เป๊ะทุกคำ ทุกแกรมมาร์ ก็เปลี่ยนเป็น ขอแค่สื่อสารรู้เรื่อง ก็พอแล้ว สำเนียงเพี้ยนบ้าง แกรมมาร์ผิดบ้าง ช่างมันก่อน! เอาให้เขารู้ว่าเราจะสื่ออะไรก็พอแล้ว พอมันปลดล็อกตรงนี้ได้นะ เฮ้ย… มันกล้าพูดมากขึ้นเยอะเลยว่ะ
อีกอย่างที่ผมทำคือ พยายามคิดเป็นภาษาอังกฤษ เวลาจะพูดอะไรออกมา ลองนึกประโยคในหัวเป็นภาษาอังกฤษดูก่อนเลย ไม่ต้องแปลจากไทยเป็นอังกฤษในหัวอีกทีนึง ซึ่งแรกๆ มันจะช้ามาก แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มคล่องขึ้นเอง อันนี้เรื่องจริง!
แล้วตอนนี้ล่ะเป็นยังไง?
ถามว่าตอนนี้พูดคล่องปร๋อเป็นเจ้าของภาษาเลยมั้ย? บอกเลยว่ายัง! ฮ่าๆๆ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนนี่คือคนละเรื่องเลยครับ ตอนนี้กล้าพูดมากขึ้นเยอะ ไม่ค่อยกลัวผิดแล้ว ผิดก็ผิดดิ ก็เรียนรู้กันไป อย่างน้อยๆ ก็สั่งข้าวเองได้ ถามทางได้ ต่อรองราคาของได้นิดหน่อย เวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็เอาตัวรอดได้สบายขึ้นเยอะ ไม่ต้องคอยเกาะเพื่อนแจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ที่สำคัญคือมันเปิดโลกเรามากขึ้นนะ ได้คุยกับคนหลากหลาย ได้อ่านอะไรๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษแล้วเข้าใจมากขึ้น มันสนุกกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
สรุปเลยนะ จากประสบการณ์ของผมเนี่ย การเรียนพูดภาษาอังกฤษมันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอก มันคือการ ลงมือทำจริง ล้วนๆ หาโอกาสใช้มันบ่อยๆ อย่าไปกลัวผิดพลาด แรกๆ มันอาจจะท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่ถ้าเราไม่หยุดพยายาม สักวันมันต้องดีขึ้นแน่นอนครับ ผมนี่แหละเป็นพยาน! สู้ๆ ครับทุกคนที่กำลังพยายามอยู่เหมือนกัน!