ต้องบอกเลยว่าเริ่มต้นจากความรู้สึกสิ้นหวังนะครับ นั่งมองตัวเองอายุดิจิตอลที่ทำงานในบริษัทไทยแล้วไปไม่รอด เพราะตอนนี้ถ้าไม่พูดอังกฤษคือตกเทรนด์ไปเลย พอรุ้ตัวว่าเวลาพูดกับฝรั่งเป็นเสียงก้องๆในหัวว่า “ทำไมเราไม่เข้าใจเขาสักที” ก็ตัดสินใจหักดิบเลยครับ
อาทิตย์แรก: ตะลึงกับศัพท์ง่ายๆที่ไม่ง่าย
ไปซื้อสมุดโน้ตเล่มบางๆมาก่อน เปิดยูทูปเจอคลิปสอน A B C ก็ท่องตามเปะปะเลย คืนแรกนี่นอนกรนไปพร้อม A-for Apple, B-for Ball อ่ะครับ แต่งานเข้าเมื่อไปเจอคำว่า “the” พออาจารย์สอนว่ามันอ่านว่า “เดอะ” แต่พอไปฟังฝรั่งพูดจริงดันเป็นเสียง “ดึ” แทน! นี่แม้แต่คำพื้นฐานยังพลิกแพลงเลยเหรอเนี่ย
- วันที่สาม: หยิบปากกามาวนเขียน they their them วนไปวนมาเหมือนไก่จิกข้าวเปลือก สรุปสลับกันมั่วไปหมด
- วันที่ห้า: เริ่มบ้าเพราะ verb to be นี่มันมีทั้ง is am are แล้วยังมี was were อีก! ตอนเรียนมันแยกชัดเจนแต่พอพูดจริงดันลืมหมด
อาทิตย์สอง: รุกด้วยหนังและเพลง
เปลี่ยนท่าทันควันเลยครับ เปิด Netflix หาหนังการ์ตูนเด็กเรื่อง Peppa Pig เพราะเค้าพูดช้ากว่าเพื่อนมนุษย์ ดันเจอปัญหาที่ไม่คิดมาก่อน คือเวลาเปิดซับไทยมันก็อ่านแต่ภาษาไทย พอเปิดซับอังกฤษคือมองไม่ทัน! เลยเอาเทคนิคโจรมาปรับใช้ – กินข้าวเช้าทุกวันพร้อมดูตอนเดิมซ้ำสามรอบ แรกๆตาแทบถลนเพราะต้องกลอกไปกลอกมา แต่พอวันที่สี่เริ่มจับจังหวะคำที่เค้าพูดกับซับได้
ส่วนตัวหนักกว่าคือฝึกร้องเพลงครับ เลือกเพลงสากลยอดนิยมเหมือนทุกคน แต่พอเปิดลิริกส์อ่านตามคือตะกุกตะกักกว่าเดินลุยถนนลาดยางร้อนๆนะครับ เจอศัพท์แสลงแบบ “wanna”, “gonna” ที่ดิกชันนารี่ไม่ได้สอน นี่ต้องกูเกิ้ลถามชาวเน็ตถึงจะรุ้ความหมาย
อาทิตย์สาม: ออกล่ารายได้ล่วงหน้า
ตัดสินใจโชว์ฮึดซื้อแอพเรียนภาษา แต่เงินในกระเป๋ามันส่งเสียงด่าทอเราเลยครับ เลยต้องออกแบบเรียนฟรีแบบจัดเต็ม:

- เช้า: นั่งจ้องป้ายรถเมล์ทุกป้ายที่ผ่าน เอาศัพท์บนป้ายมาแปล (ประเดิมวันแรกเจอคำว่า “pedestrian” คือคนเดินถนน)
- บ่าย: ทำอาหารไปฟังพอดแคสต์สอนอังกฤษพ่วงไปด้วย ครั้งหนึ่งเผลอใส่น้ำปล�ามเข้าไปเพราะสมาธิหลุด
- ค่ำ: เข้าเซิร์ฟเวอร์ดิสคอร์ดหาเพื่อนต่างชาติทอลอง แรกๆแชทเป็นตัวหนังสือยังส่ายหัวแล้วกดคำผิด แต่เดี๋ยวนี้ทักไปว่า “wanna play game?” ได้คล่องปรื๋อ
ผลลัพธ์เดือนแรก
ตอนนี้พอฟังฝรั่งในทีวีได้แบบไม่ต้องพึ่งซับตลอดเวลา ส่วนตอนฝึกพูดนี่ยังติดขัดเหมือนรถติดยันชั่วโมงเร่งด่วนครับ เคยทดลองสั่งกาแฟด้วยภาษาอังกฤษ พูดไปสามคำพนักงานดันยิงกลับมาทั้งประโยค! เลยต้องหอบคำศัพท์ที่ร้านมาฝึกใหม่ตอนกลางคืน เดาว่าต้องใช้เวลาเอาตัวรอดกับมนุษย์ฝรั่งจริงๆอีกสักสามเดือนเป็นอย่างน้อย
สิ่งสำคัญคือตอนนี้ไม่ท้อแล้วครับ เพราะแค่จับบทสนทนาง่ายๆได้ก็เหมือนถอดล็อกโลกใบใหม่แล้ว บางวันนั่งดูคลิปยูทูปรุ้้สึกว่าตัวเองคืบหน้าเหมือนหอยทากแต่ก็ยังดีกว่ายังเป็นไข่ไก่อยู่เลยนะฮะ