เริ่มจากสับสนจนเซ็งเลยค่า
อาทิตย์แรกนี่แม่งทรมานมาก กดสมัครแพลตฟอร์มเรียนภาษาฟรีในเน็ต คิดว่าสะดวกดี เปิดคลิปสอนมาดูสามวิดีโอ งงกว่าตอนหัดเล่นติ๊กต่อกอีก! ป้ายนั่นนู่นเต็มไปหมด แต่จับต้นชนปลายไม่ถูกซักที ครูพูดอังกฤษเป๊ะเวอร์เหมือนหนังฝรั่ง ทั้งๆที่เราตั้งใจจะเรียนพื้นฐานแท้ๆ
- โดนบีบให้ท่องศัพท์วันละ 50 คำ – แค่คำว่า “refrigerator” ยังสะกดผิดเป็น “เลฟริเย่” อ่ะ
- แบบฝึกหัด listening เร็วเหลือเกิน – เหมือนฟังประกาศรถไฟฟ้าตอนเร่งด่วน เสร็จแล้วห้ามกดย้อน
- สอบวัดระดับอัตโนมัติได้ F ติดกันห้าครั้ง – มันให้กรอกอีเมลแจ้งผลน่ะ หน้าแตกมาก
ตัดสินใจเปลี่ยนสูตรเด็ดขาด
เช้าวันเสาร์นอนกลิ้งๆอยู่ กะว่าจะทิ้งคอร์สนี้ไปแล้ว แต่ไปเห็นป้าย “รับสอนตัวต่อตัวราคาชิวๆ” ติดอยู่ตรงร้านกาแฟแถวบ้าน นึกว่าตามสัญญาณ เลยลองโทรไปคุยคร่าวๆ คุณครูสาวเสียงนุ่มมาก บอกเริ่มเรียนได้เลยจันทร์หน้า ไม่ต้องมีตำรา แค่มีสมุดลอกคำก็พอ
สัปดาห์แรกรู้สึกแปลกๆเหมือนไปบ้านแฟนใหม่ คุณครูให้เราอาบน้ำเสร็จมาสิบโมงเป๊ะ พอเริ่มเรียนเขาก็ดึงมือถือเราปิดเสียงทันที ฉีกกระดาษ A4 มาให้สี่แผ่น ให้เขียนคำว่า “I” “You” “Eat” “Sleep” แค่นั้น แล้วเอาไปติดฝาผนังห้องน้ำ! สอนให้เราพูดต่อหน้ากระจกตอนแปรงฟันว่า “I eat rice” ทั้งที่ท้องยังอิ่มจากข้าวต้มแม่
เจอทางแสงสว่างแล้วจ้า
อาทิตย์ที่สามถึงได้เก็ท ครูจะไม่ยัดแกรมมาร์ สอนให้เราจำแค่โครงสร้างเดียวคือ “I + กริยา + สิ่งของ” แล้วให้ใช้มันทุกสถานการณ์ พอพูดผิดก็ไม่ด่า แค่ยิ้มแล้วทำท่าปากเป็ดให้เราพูดใหม่ ตอนสั่งกาแฟร้านโปรดครั้งแรกอะ มึนๆเลยบอก “I want you coffee please” คุณครูที่ยืนอยู่หลังๆส่งเสียงหัวเราะกร๊าด แกแก้ให้ทันควันว่า “เขาคงไม่อยากเป็นกาแฟเธอนะลูก!”
- สัปดาห์ที่ 4 : กล้าเดาอารมณ์พนักงานเซเว่นเวลาสั่งซอสพริกแล้วดันพูด “I eat spicy angry!” (ที่ถูกคือ sauce)
- สัปดาห์ที่ 5 : ใช้คำว่า “open” ได้ครบ 3 ความหมาย ทั้งเปิดประตู เปิดขวดน้ำ และเปิดแอปมือถือ
- สัปดาห์ที่ 6 : แอบสั่งพิซซ่าทางโทรศัพท์เองได้ โดยไม่ต้องให้แม่ช่วยฟัง
ตอนนี้เพิ่งครบสองเดือนเองนะ ผลลัพธ์ชัดกว่าฝึกร้องเพลงในยูทูปเป็นปี จริงอยู่ว่าเพื่อนบอกสำเนียงยังเหมือนนักท่องเที่ยวจีนพึ่งลงเครื่อง แต่อย่างน้อยเวลาอยากจะกินข้าว ตอนนี้ไม่ต้องชี้นิ้วใส่อาหารตามแถวตลาดแล้วละ!
