เอาจริงๆเรื่องเรียนภาษาอังกฤษนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ทำไมผู้ใหญ่อย่างเราๆถึงยังต้องมานั่งเริ่มใหม่หมดทั้งที่ผ่านมหาลัยมาก็หลายปี? เหตุการณ์ที่ทำให้ลุกขึ้นมาอีกทีคือตอนไปเจอบอสชาวต่างชาติที่ออฟฟิศ บลาๆพูดอะไรก็ไม่รู้เรื่อง พอกลับบ้านก็เอะใจตัวเองว่าเราสมัยเรียนได้เกรด B+ เลยนะนี่ ทำไมทักษะฟังพูดถึงห่วยแตกขนาดนี้
ขั้นแรก : หาที่เรียนแบบเร่งรัดให้คนทำงาน
ตะบี้ตะบันเปิดเน็ตเสิร์ชคอร์สเรียน แต่เจอแต่โปรแกรมเด็กหรือพวกคอร์สแพงๆแบบเรียนเป็นปี พอเห็นราคาก็แทบจะเป็นลม! เลยไปเจอบอร์ดพันทิปนึง เค้ามีแชร์ฟรีๆไฟล์สอนภาษาอังกฤษที่เรียกว่า “English for Survival” ซึ่งมันจัดเต็มตั้งแต่ศัพท์ในเมนูอาหารยันประโยคต่อรองราคาเช่าคอนโด มันคือบทเรียนภาษาอังกฤษแท้ทรูที่ผู้ใหญ่อย่างเราต้องใช้จริงๆ ไม่ได้เรียนไวยากรณ์เน้นๆเหมือนสมัยเด็ก
- สัปดาห์ที่ 1 : เริ่มจากการฟังสำเนียงเข้มข้น ตื่นเช้ามาก็ใส่หูฟังเปิดคลิปสอนพูดช้าๆตอนหุงข้าว ทำตัวเหมือนเด็กฝึกฟังใหม่ทั้งๆที่อายุเกือบจะสี่สิบแล้ว
- สัปดาห์ที่ 2 : หยิบสมุดฉบับโปรดมาขีดเขียนศัพท์ติดข้างฝา ตอนแปรงฟันก็ท่องเป็นสิบรอบกว่า “cautiously” ออกเสียงยังไงให้เหมือนเขา
- สัปดาห์ที่ 3 : เริ่มรู้สึกท้อเพราะเวลาคุยโทรศัพท์กับลูกค้าต่างชาติก็ยังสะดุด แต่พยายามอย่ายอมแพ้ ลองเปิดแอพฟรีคุยแลกภาษากับคนแคนาดาคนนึงสัปดาห์ละสามสี่ครั้ง ช่วงแรกเขาพูดเร็วมากจนแทบอยากม้วนเสื่อ
จุดเปลี่ยนตอนสั่งกาแฟ!
อยู่ๆวันนึงไปเจอร้านในเอกมัยที่พนักงานเป็นฝรั่งพอดี ตอนจะสั่งอเมริกาโน่ร้อนๆมันก็พูดไม่ออกขัดเขิน พอดีนึกคำว่า “Please brew it extra hot” จากไฟล์เรียนเมื่อวานได้เลยลองซัดเข้าไปแบบไม่เกรงใจ ผมรอฟังว่าเขาจะยิ้มเยาะมั้ย แต่เจอหน้าการ์ตูนลุงคนนั้นยิ้มกว้างแล้วถามกลับว่า “Ah you’re Thai? Your pronunciation is way clearer than my attempts at ‘Sawasdee khrap’!” ตอนนั้นน้ำตาจะไหล รู้สึกเหมือนเทพบุตรมาโปรด!
เรื่องตลกคือไปสมัครงานใหม่ที่บริษัทไอทีย่านรัชดาเมื่อเดือนก่อน นั่งรอสัมภาษณ์อยู่ดีๆเจ้านายฝรั่งเดินมาเจอโดยบังเอิญ เขาถามเป็นภาษาอังกฤษว่า “How’s your morning so far?” แทนที่จะนิ่งเหมือนแต่ก่อน ก็ตอบกลับไปแบบไม่กั๊กว่า “Pretty nerve-wracking, Sir. But smelling coffee here helps!” พอแค่นี้เขาก็หัวเราะก๊ากแล้วบอกว่า “At least your honesty beats textbook answers!” นี่ขนาดยังไม่ทันเข้าห้องสัมภาษณ์นะเนี่ย นี่แหละที่เรียกว่าการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับการเอาชีวิตรอดในโลกผู้ใหญ่
สรุปว่าวิธีที่ได้ผลที่สุดคือยอมลืมเกรดใน transcripts แล้วเริ่มจากศูนย์ใหม่ เหมือนเวลาสอนเด็กนั่นแหละ แต่ผู้ใหญ่อย่างเราใจร้อนก็ต้องหาวิธีที่กระชับและเจาะเป้าหมายชีวิต ถ้าไม่เจอของฟรีจากในกลุ่มคนเคยทนทุกข์มาก่อน ก็คงต้องทนเจอปัญหาแบบวันนั้นเรื่อยๆแย่แล้ว!