เมื่อเช้านึกอยากอัพสกิลภาษาจึงสมัครคอร์สเรียนภาษาแบบเร่งรัด ตอนแรกตั้งใจจะเอาจริงนะ ว่าวันนี้ต้องเริ่มให้ได้ สมัครเสร็จกดชำระเงินทันทีแบบไม่ลังเล
เปิดคอร์สมากลายเป็นเซอร์ไพรส์
พอเข้าหน้าหลักถึงได้เห็นว่าคอร์สทั้งหมดยาว 180 บท ดูแค่ 10 บทแรกก็เมื่อยตาแล้ว สไลด์เนื้อหาแต่ละอันยัดเยียดเป็นสิบๆ หน้า หน้าตา UI ก็เหมือนระบบสมัยปี 2007 เลยพาลเสียอารมณ์เปล่าๆ
เจอปัญหาจุกจิกลงคอ
- คลิปวิดีโอบทเรียนแรกที่ว่า “พื้นฐาน” ยาว 40 นาที แถมครูฝรั่งพูดเร็วปรื๋อเหมือนอ่านข่าว CNN
- แบบฝึกหัดบทที่ 1 เป็นการเขียนเรียงความ 200 คำ ทั้งที่โค้ชบอกว่ารับคนเพิ่งเริ่มต้น
- พยายามยัดคำศัพท์ 50 คำใน 1 บทพร้อมกฎแกรมม่า 4 ข้อแบบไม่แบ่งระดับ
ตกบ่ายลองทำโจทย์ข้อสอง เจอศัพท์คำว่า “epistemology” อ่านแล้วคุ้นๆ จากบทความปรัชญาที่เคยโดนเพื่อนแชร์ตอนอยู่มอปลาย มึนตึบจนต้องปิดแท็บไปนอนพัก
วันสุดท้ายกับทางเลือกใหม่
รุ่งขึ้นนึกได้ว่ามีแอปเรียนภาษารายเดือนแถวบ้าน ลองโหลดมาดู ปรากฏว่าดีกว่าคอร์สแพงเป็นเท่าตัว มีเกมส์จิ๊กซอว์ศัพท์ แชทบอทแบบไม่กดดัน แถมยัดเพลงฮิตมาสอนแกรมม่า เรียนได้แค่ครึ่งชม.ก็รู้สึกโปรแกรมสมองไว้ใช้จริงได้
ช่วงค่ำเพื่อนถามว่าคอร์สใหม่เป็นไหม ก็แค่หัวเราะแห้งๆ แล้วบอกตามตรงว่าเสียเงินไป 1,800 บาทโดยเปล่าประโยชน์ ยอมรับเลยว่าหลงกลรีวิวหลอกขายในเฟซกลุ่มแม่บ้านนี่โดนเต็มๆ
บทเรียนที่ได้ไม่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ
- อย่ากดชำระเงินตอนตี 4 นี่เป็นกฎเหล็กข้อแรกที่ควรจำ
- ก่อนเรียนคอร์สไหนให้ดูประวัติครูผู้สอนดีๆ บางคนได้แค่มาแต่อาชีพติวเตอร์ แต่ไม่มีผลงานใช้ภาษาจริง
- พวกคอร์ส “พูดได้ใน 30 วัน” เนี่ย 90% เป็นประโยคแบบนกแก้วนกขุนทอง
ตอนนี้เลยเซ็ตเป้าหมายใหม่ คือใช้แอปรายเดือนฝึกวันละ 20 นาที ก่อนนอนก็เปิดเพลงสากลฟังไปเรื่อยๆ อย่างน้อยฟังออกสี่คำในหนึ่งท่อนก็ถือว่าคุ้มแล้ว ส่วนคอร์สแพงๆ นั้น…ให้มันเป็นแค่ภาพจำที่ฝังใจเตือนสติแล้วกัน
ปล. เพื่อนบ้านมาบอกว่าวันนี้เห็นเมียแอบสมัครคอร์สตัดเย็บผ้าออนไลน์ราคาเกือบหมื่น ทั้งที่บ้านนี้ไม่มีแม้แต่จักรเย็บผ้า เห็นคลาสอื่นมันโคตรน่าสนใจเหมือนกันแหละ 555