เจอของดีที่พระราม 2 แล้ววว!
เมื่อเช้าตื่นมาก็รู้สึกหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยอะ ภาษาอังกฤษมันไม่เข้าหัวซักที นั่งอยู่หน้าแล็บท็อปก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน สมองตื้อมาก! เลยคิดได้ว่า “โอ้ย… ต้องออกไปเจอคนจริงๆ ซะแล้ว เรียนแบบตัวเป็นๆ ดีกว่า!” สมองเราอยู่กับคอมนานๆ มันตันจริงๆ นะ
ตั้งหลักแล้วก็ฟาดฟันหาข้อมูลเลย เปิดกูเกิ้ลค้นแบบมั่วๆ ว่า “เรียนภาษาอังกฤษแถวพระราม 2 ที่ไหนดี”. ตาเห็นร้านกาแฟน่ารักๆ ในรูปรีวิวแว็บแรกเลยที่ใจ “เอานี่แหละ!” ไม่ต้องคิดเยอะ ถลิกลงเก้าอี้ ใส่รองเท้าแตะ แล้วก็กระโจนขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ปราดไปทันที เป้าหมายคือซอยนึงตรงไปจากเซ็นทรัลพระราม 2 นั่นแหละ
ถึงที่หมายคือคาเฟ่เล็กๆ สั่งกาแฟแก้วนึงซะก่อน คุยกับพนักงานหน้านิ่งว่า “มาสมัครเรียนภาษาอังกฤษครับ”. พี่เค้าดีมาก อุ้มสมุดหนังสือสีสดมาโปะบนโต๊ะ แล้วก็อธิบายหลักสูตรให้ฟังยาวยืด ทั้งคุยทั้งเขียนลงสมุดให้ดูเลยว่าวันไหนเรียนอะไร มี Grammar แบบง่ายๆ หรือ Speaking ที่เน้นคุยกับครูต่างชาติตัวเป็นๆ. ไม่ได้จองก่อนหรอกนะ ตัดสินใจทันควัน “เอาเลยครับ ลงคอร์สนี้!” เสร็จแล้วจ่ายตังค์ค่าเรียนและค่าหนังสือไปตามระเบียบ.
เรียนวันแรกคือวันนี้แหละ! ครูชื่อพอล ยืนหน้าห้องว่ะนึง แล้วก็ถามทีละคนว่า “How are you today?”. ตอนมันวนมาถึงเราเนี่ย หัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แทบพูดไม่ออก “I… I’m fine, thank you.” เสียงมันสั่นอ่อนซะขนาดนั้น! อายตัวเองโคตรๆ แต่ครูพอลทำท่าทางดีมาก ยิ้มกว้างแล้วบอก “ดีมาก! ลองใหม่นะ” ให้เราพูดใหม่ช้าลงอีกนิด. เลยกล้าอ้าปากพูดซ้ำ!
จากนั้นถึงบทสนทนาจริงๆ ครูพอลเอา บัตรภาพมาเกะกะเต็มโต๊ะ มีรูปผัก ผลไม้ เต็นท์ ร้านค้า หาดทราย สารพัด! แล้วก็ชี้นิ้วถามทีละภาพ “What’s this? และ What are they doing?”. สิ่งที่เราเจอหนักมากคือ:
- อึ้งตาค้าง ตอนเจอคำว่า “durian” เพราะเราเรียกทุเรียนมาตลอดชีวิตโดยไม่รู้ว่าฝรั่งเรียกว่าไง
- สมองตีบ จำศัพท์พวกผักชี/ขึ้นฉ่ายไม่ได้ซักที เลยต้อง ขีดเส้นใต้หนาหนังสือ ไว้ทบทวนบ้าน
- ลิ้นพันกันเป็นเกลียว เวลาต้องพูดรวมกันหลายๆ คำ แบบ “They are camping on the beach.” มันยากชะมัด!
ตอนจบคาบ ครูพอลแจกการบ้านมาแผ่นนึง เป็นแบบฝึกหัดเติมคำในช่องว่าง ตอนแรกเห็นก็ปวดหัว แต่งานนี้ ไม่ยอมแพ้! หยิบหนังสือที่เพิ่งซื้อมาอ่านทบทวนแบบลิงแก้มซานก่อนทำ แถม แอบมานั่งจิ้มดิกชันนารีในมือถือ ในร้านช่วยๆ หาคำศัพท์ที่เขางงอีกพักใหญ่ กว่าจะเสร็จก็ปาไปชั่วโมงกว่า.
รู้สึกได้เลยว่ามันดีกว่าอยู่บ้านท่องคนเดียว! ถึงจะพูดยังตะกุกตะกัก ออกเสียงเพี้ยนบ้าง มันก็โอเค ครูเค้าไม่หัวเราะ ไม่ด่า รู้สึกอุ่นใจที่เจอเพื่อนร่วมชั้นอายภาษาอังกฤษเหมือนกันสามสี่คน. บอกเลยว่าจะ กลับไปเรียนให้เต็มที่ อาทิตย์นี้ ตั้งใจจะพูดภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้นสักที แม้จะก้าวช้าๆ เหมือนเต่า แต่ความมั่นใจมันเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวล่ะ!