ก่อนอื่นอยากบอกว่าเราเองก็เคยคิดผิดๆ ว่าภาษาอังกฤษเรียนเร็วๆ ได้ พอผ่านมารู้เลยว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่วางแผนดีๆ เล่าให้ฟังเลยนะว่าตอนแรกเราเริ่มยังไง
เปิดตำราแบบมั่วๆ
พอตัดสินใจจะเรียน เราก็รีบซื้อหนังสือแกรมมาร์มาทั้งชุดแบบเร่งด่วน ตั้งเป้าว่าจะอ่านให้จบภายในเดือนเดียว ผลลัพธ์คือ ตื่นมาเปิดหนังสือวันละ 5 หน้าก่อนนอน แต่พอเจอ Past Perfect Continuous เนี่ยมึนตึบ! จำกฎไม่ได้แม้แต่สามข้อแรก ซื้อหนังสือแพงๆ มากองไว้แต่นอนกลบฝุ่นไปสองเล่ม
ฝังตัวเรียนแบบบ้าคลั่ง
จากนั้นลงคอร์สออนไลน์แบบเร่งรัดที่โฆษณา “พูดได้ใน 7 วัน” ทุ่มเวลาเรียนวันละ 6 ชั่วโมงติดกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ:
- วันที่สามเริ่มปวดหัวตามองภาพซ้อน
- วันที่ห้าจำศัพท์ใหม่ๆ ไม่ได้เลยสักคำ
- พอถึงวันสอบปากเปล่า ลืมแม้แต่การทักทายง่ายๆ
เหมือนน้ำเต็มแก้วแล้วแต่ยังรินลงไปอีก มันหกหมด
ความผิดพลาดที่จ่ายด้วยเวลา
กว่าจะรู้ตัวก็เสียเวลาไปเกือบสามเดือน สิ่งที่ทำพลาดบานเลย:
- ไม่วัดระดับตัวเองก่อน – ยัดเนื้อหาขั้นสูงทั้งที่พื้นฐานยังไม่แน่น
- ข้ามขั้นตอนฟัง-พูด – เน้นแต่แกรมมาร์จนพูดไม่ออก
- เป้าหมายมั่ว – ตั้งไว้ว่า “เก่งอังกฤษ” โดยไม่ระบุว่าอยากใช้ทำอะไร
เหมือนวิ่งมาราธอนโดยไม่วอร์มร่างกาย ไม่ช้าด้วยแน่ะ
บทเรียนที่ได้เจ็บตัว
สุดท้ายนี้เปลี่ยนวิธีใหม่ทั้งหมด เลิกเร่งแล้วมาเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป:
- ทดลองเรียนฟรีหลายคอร์สก่อนลงทุน
- แบ่งเวลาอ่าน-ฟัง-พูดให้สมดุลกัน
- จดบันทึกคำศัพท์แบบยกตัวอย่างประโยคจริง
เจ็บตัวมาแล้วบอกเลย ทางลัดไม่มียุคนี้ ถ้าใครกำลังจะเริ่มเรียน แนะนำให้ทำสองสิ่งนี้ก่อน:
- เช็คให้ชัวร์ว่าวันหนึ่งต้องใช้ภาษาอังกฤษส่วนไหนบ่อยสุด
- ให้เวลาตัวเองปรับตัวอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนอัดเนื้อหา
ไม่งั้นอาจจะวนลูปเสียเวลาแบบเราอีกค่ะ