สำหรับนักเรียนที่ต้องเผชิญกับข้อสอบคณิตศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ ปัญหาด้านภาษามักกลายเป็นกำแพงขวางกั้นแทนที่จะเป็นเนื้อหาทางคณิตศาสตร์เอง หัวข้อ “ปัญหาภาษาอังกฤษคณิตศาสตร์แก้ได้! 5 วิธีเพิ่มคะแนนเร็ว” เป็นประเด็นที่น่าสนใจ และมีเทคนิคปฏิบัติจริงที่ช่วยให้ผู้เรียนก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้
ทำความเข้าใจธรรมชาติของปัญหา
คณิตศาสตร์ภาษาอังกฤษไม่ได้ยากเพราะตัวเลขหรือสูตรซับซ้อนเสมอไป ปัญหาหลักมักอยู่ที่การตีความโจทย์ การทำความเข้าใจคำศัพท์เฉพาะทาง และโครงสร้างประโยคที่ต่างไป การจัดการกับจุดอ่อนเหล่านี้อย่างตรงจุดสามารถช่วยให้คะแนนดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
5 วิธีเพิ่มคะแนนคณิตศาสตร์ภาษาอังกฤษแบบเร็วๆ
เทคนิคเหล่านี้มุ่งเน้นการแก้ไขจุดบกพร่องด้านภาษาโดยตรง
1. สร้างคลังคำศัพท์คณิตศาสตร์เฉพาะทาง
คำศัพท์เช่น “quotient”, “isosceles”, “denominator” หรือวลีอย่าง “subtract from” ต่างมีความหมายเฉพาะในบริบทคณิตศาสตร์ การรวบรวมคำศัพท์และวลีเหล่านี้เป็นประจำถือเป็นพื้นฐานสำคัญ
- ทำแฟลชการ์ดคำศัพท์พร้อมภาพหรือตัวอย่างประโยค
- เน้นทบทวนคำศัพท์ที่มักปรากฏในโจทย์บ่อยครั้ง
2. ฝึกฝนการแปลโจทย์ให้เป็นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์
ทักษะสำคัญคือการแปรคำพูดในโจทย์ให้เป็นสมการหรือสูตร เริ่มต้นด้วยโจทย์สั้นๆ
- อ่านโจทย์ แยกประเด็นสำคัญ ขีดเส้นใต้คำหลัก
- ทดลองเปลี่ยนประโยคโจทย์ให้เป็นสมการง่ายๆ ด้วยตนเองก่อนดูเฉลย
3. เรียนรู้รูปแบบโครงสร้างโจทย์มาตรฐาน
โจทย์คณิตศาสตร์ภาษาอังกฤษมักมีรูปแบบการตั้งคำถามซ้ำๆ เช่น รูปแบบเปรียบเทียบ (“more than”, “less than”), การเขียนแสดงกระบวนการ (“show that”, “find the value”) การทำความคุ้นเคยกับรูปแบบเหล่านี้ช่วยให้เข้าใจโจทย์ได้เร็วขึ้น
4. ฝึกทำข้อสอบเก่าและจับเวลาจริง
การทำข้อสอบเก่าช่วยให้คุ้นเคยกับรูปแบบการออกข้อสอบ ความซับซ้อนของภาษา และฝึกความเร็ว
- วิเคราะห์จุดที่มักผิดพลาดซ้ำๆ ว่ามาจากการคำนวณหรือการตีความภาษา
- ฝึกฝนในสภาวะจำกัดเวลาทุกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจ
5. ใช้ภาพและไดอะแกรมช่วยตีความ
เมื่อเจอโจทย์หรือปัญหาเกี่ยวกับรูปทรงเรขาคณิตหรือตำแหน่งที่ซับซ้อน การวาดภาพประกอบด้วยตนเองสามารถช่วยให้เข้าใจโจทย์ได้ชัดเจนขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาการแปลคำต่อคำเพียงอย่างเดียว
เคล็ดลับสำคัญ: มุ่งเน้นที่ความเข้าใจ ไม่ใช่แค่การจำ
เทคนิคทั้ง 5 วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อผู้เรียนมุ่งเน้นการทำความเข้าใจความหมายและบริบทของภาษาในโจทย์คณิตศาสตร์เป็นหลัก แทนที่จะกังวลกับการแปลทีละคำ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและตรงจุดจะช่วยให้นักเรียนเปลี่ยนจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งได้ในระยะเวลาอันสั้น
การติดตามพัฒนาการผ่านการบันทึกคะแนนในการฝึกข้อสอบก็ช่วยให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมได้อีกด้วย