เรียนภาษาอังกฤษจาก Netflix ทำยังไงให้เก่งเร็ว ตามดูเทคนิคดีๆ ที่นี่
ในยุคที่การสื่อสารข้ามวัฒนธรรมเป็นเรื่องสำคัญ ทักษะภาษาอังกฤษที่แข็งแกร่งถือเป็นประตูสู่โอกาสมากมาย การเรียนภาษาผ่านสื่อบันเทิงอย่าง Netflix เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเข้าถึงง่ายและน่าสนใจ แต่คำถามสำคัญคือ แล้วจะเรียนยังไงให้ได้ผลเร็วและเห็นความเปลี่ยนแปลงได้จริง
ประโยชน์จากการเรียนภาษาอังกฤษผ่าน Netflix
การเรียนภาษาอังกฤษผ่าน Netflix มอบข้อได้เปรียบที่แตกต่างจากวิธีการดั้งเดิม ประการแรก ผู้เรียนจะได้สัมผัสกับภาษาอังกฤษที่ใช้จริง ในหลากหลายสถานการณ์ ทั้งทางการและไม่ทางการ ประโยคสแลง และสำนวนที่พบเจอในชีวิตประจำวัน ประการที่สอง เป็นการเรียนรู้แบบบูรณาการทักษะ โดยเฉพาะทักษะการฟังที่พัฒนาขึ้นจากการได้ยินเสียงเจ้าของภาษาในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ และการอ่านจากการติดตามซับไตเติ้ล ประการสุดท้าย การเรียนรู้ผ่านเรื่องราวที่น่าสนใจทำให้การเรียนภาษาไม่น่าเบื่อ และช่วยให้จดจำคำศัพท์และโครงสร้างประโยคได้ดีขึ้น
เลือกเนื้อหาให้ตรงระดับและตรงใจ
ก้าวแรกที่สำคัญคือการเลือกเนื้อหาให้เหมาะสม การดูสิ่งที่ยากเกินไปตั้งแต่เริ่มต้นอาจทำให้ท้อแท้ได้ง่าย ๆ ผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มีพื้นฐานไม่มากนัก สามารถเริ่มจาก
- การ์ตูนหรือรายการสำหรับเด็ก: ภาษาที่ใช้มักจะเรียบง่าย ชัดเจน พร้อมเรื่องราวช่วยให้เข้าใจบริบทได้ดี
- เรื่องที่เคยดูมาก่อนแล้ว: ความคุ้นเคยกับเนื้อเรื่องช่วยให้โฟกัสไปที่ภาษาได้มากขึ้น ลดความกังวลในการเข้าใจพล็อต
- ซิทคอม (Sitcom) หรือรายการเรียลลิตี้: บทสนทนาในชีวิตประจำวันสั้น ๆ กระชับ ได้ยินซ้ำบ่อย ๆ
ส่วนผู้ที่มีทักษะระดับกลางถึงสูง สามารถท้าทายตัวเองด้วยสารคดี ที่มีผู้บรรยายพูดชัดเจน มีเนื้อหาเชิงลึก, ภาพยนตร์หรือซีรีส์ดราม่า ที่มีบทสนทนาซับซ้อนและคำศัพท์หลากหลายขึ้น รวมถึงเลือกดูเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจเฉพาะทาง ของตัวเองเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
เทคนิคการใช้งาน Netflix เพื่อเรียนรู้ภาษาให้ได้ประสิทธิภาพ
แค่กดดูอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หากต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้รวดเร็วขึ้น การใช้เครื่องมือและเทคนิคที่ Netflix มีให้อย่างชาญฉลาดจะสร้างความแตกต่างได้
- เล่นซ้ำบทสนทนาสำคัญ: ไม่ต้องอายที่จะกดย้อนกลับไปฟังประโยคที่ยังไม่ชัด หรือประโยคที่คิดว่ามีประโยชน์ ฟังหลาย ๆ รอบจนเข้าใจและพยายามเลียนแบบการออกเสียง
- ใช้ซับไตเติ้ลอย่างเป็นกลยุทธ์:
- ขั้นต้น: เปิดซับไตเติ้ลภาษาไทย เพื่อทำความเข้าใจเนื้อเรื่องเบื้องต้น
- ก้าวต่อมา: เปลี่ยนมาใช้ซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษคู่ไปกับเสียงต้นฉบับ เทคนิคนี้ช่วยเชื่อมโยงเสียงที่ได้ยินกับคำเขียนที่เห็น ช่วยพัฒนาทั้งการฟังและการอ่านไปพร้อมกัน
- ระดับสูง: พยายามดูโดยปิดซับไตเติ้ลทั้งหมด ให้หูได้ฝึกฟังอย่างเต็มที่
- บันทึกและทบทวนคำศัพท์ใหม่: เตรียมสมุดโน้ตหรือแอพจดบันทึกไว้ใกล้ตัว เมื่อพบคำศัพท์ สำนวน หรือโครงสร้างประโยคใหม่ที่น่าสนใจ ให้จดลงไป พร้อมทั้งประโยคตัวอย่างจากเรื่องที่ดู เพื่อให้เข้าใจบริบทการใช้งาน แล้วหมั่นนำกลับมาทบทวนเป็นประจำ
- เรียนรู้วลี ประโยค สำนวน: ไม่ใช่แค่คำศัพท์เดี่ยว แต่อย่าละเลยวลีหรือประโยคทั้งประโยคที่ใช้บ่อยในบทสนทนา สำนวน (idioms) หรือการพูดแบบสแลงก็เป็นสิ่งที่ควรจดบันทึกไว้ด้วยเช่นกัน
- ฝึกพูดตาม (Shadowing): เลือกบทสนทนาสั้น ๆ หรือประโยคเด็ด แล้วพยายามพูดตามไปพร้อมกับตัวละครทันที โดยพยายามเลียนแบบทั้งเสียงสูงต่ำ จังหวะ และน้ำเสียง การทำเช่นนี้จะช่วยเรื่องการออกเสียงและสร้างความคล่องแคล่ว
ทำให้การเรียนต่อเนื่องและได้ผล
ความสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญ การดูวันละครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงอย่างสม่ำเสมอ ได้ผลกว่าการดูครั้งละหลายชั่วโมงแต่ดูไม่บ่อย อย่าพยายามรีบเร่งให้จบตอนหรือซีซั่น แต่ให้เน้นที่การเรียนรู้จากในแต่ละฉากแต่ละตอนที่ดู
การเรียนภาษาอังกฤษผ่าน Netflix ต้องการความมีวินัยและความตั้งใจจริง มันไม่ใช่แค่การนั่งดูเพลิน ๆ หากแต่ต้องลงมือจดบันทึก ทบทวน และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เคล็ดลับคือการผสมผสานเทคนิคต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับระดับและความถนัดของตัวเอง เริ่มต้นจากสิ่งที่ง่ายก่อน เมื่อรู้สึกมั่นใจขึ้นก็ค่อย ๆ เพิ่มความท้าทาย
ความผิดพลาดถือเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ การฟังไม่ทันหรือไม่เข้าใจบางประโยคไม่ใช่เรื่องน่าอาย ใช้ประโยชน์จากเครื่องมืออย่างการเล่นซ้ำและซับไตเติ้ลให้เต็มที่ ที่สำคัญที่สุด คือนำสิ่งที่เรียนจากหน้าจอมาฝึกใช้ในสถานการณ์จริงเมื่อมีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการพูดกับเพื่อน พูดกับตัวเอง หรือแม้แต่ฝึกเขียนข้อความสั้น ๆ เป็นภาษาอังกฤษให้บ่อยขึ้น พลังแห่งการเสพสื่อบันเทิงสามารถเปลี่ยนเป็นการลงทุนทักษะภาษาได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากรู้วิธีใช้และตั้งใจจริง