ภาษาอังกฤษเป็นทักษะสำคัญสำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างธรรมศาสตร์ ผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะนี้ให้โดดเด่นมักมองหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพ บทความนี้รวบรวมเคล็ดลับจากติวเตอร์ผู้มีประสบการณ์ตรง ในการสอนนักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์แก่นักศึกษาที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง
7 เคล็ดลับพัฒนาภาษาอังกฤษจากติวเตอร์มืออาชีพ
-
จัดตารางเรียนให้สม่ำเสมอ: ความต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญ ไม่ควรทิ้งช่วงการฝึกฝนนานเกินไป ติวเตอร์แนะนำให้กำหนดเวลาเฉพาะสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษทุกวัน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เช่น 30-45 นาที แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ จะเห็นผลดีกว่าการเรียนแบบหักโหมเป็นครั้งคราว การสร้างวินัยในการฝึกฝนช่วยให้สมองปรับตัวและซึมซับภาษาได้ดีขึ้น
-
ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่า: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีแหล่งเรียนรู้มากมาย ที่หลายคนอาจยังไม่เคยสัมผัสอย่างลึกซึ้ง สำนักหอสมุดมีหนังสือและวารสารภาษาอังกฤษหลากหลาย ศูนย์ภาษา (Language Center) มักเปิดคอร์สเสริมทักษะฟรีหรือราคาพิเศษสำหรับนักศึกษา การเข้าชมรมหรือพบปะกลุ่มแลกเปลี่ยนภาษา (Language Exchange) ที่จัดภายในมหาวิทยาลัยก็เป็นอีกช่องทางที่ได้ผลดี แนะนำให้สืบหาและใช้ทรัพยากรเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์
-
กล้าพูดและกล้าผิดพลาด: ความกลัวที่จะพูดผิดถือเป็นอุปสรรคใหญ่ ติวเตอร์แนะให้นักศึกษาเริ่มต้นฝึกพูดในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เช่น กับเพื่อนในกลุ่มเรียน หรือติวเตอร์โดยตรง หัวใจคือการสื่อสารให้เข้าใจ มากกว่าความถูกต้องสมบูรณ์แบบในขั้นแรก การฝึกพูดบ่อยๆ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและพัฒนาการออกเสียงได้รวดเร็ว การยอมรับว่าการผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้เป็นสิ่งที่จำเป็น
-
ปรับการดูสื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้: การดูหนังหรือซีรีส์ภาษาอังกฤษสามารถเป็นเครื่องมือฝึกฟังชั้นดี เริ่มต้นด้วยการเลือกเรื่องที่ชอบ เปิดซับไตเติลภาษาไทยก่อนเพื่อทำความเข้าใจโครงเรื่อง จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นซับไตเติลภาษาอังกฤษ และขั้นท้าทายคือปิดซับไตเติลทั้งหมด การฟังซ้ำบางฉากที่ชอบจะช่วยจับสำเนียงและเรียนรู้การใช้คำในบริบทจริงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วงแรกอาจรู้สึกยาก แต่จะค่อยๆ ปรับตัวได้
-
หา “คู่ฝึก” (Language Partner): การมีเพื่อนที่เป็นเจ้าของภาษา หรือผู้ที่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษในการฝึกสนทนาร่วมกันถือเป็นโอกาสที่ดี บางท่านอาจพยายามหาผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนภาษาที่จัดขึ้นในมหาวิทยาลัยหรือตามสถานที่ต่างๆ การสนทนากับคู่ฝึกช่วยพัฒนาทักษะการฟังและการพูดในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมักเรียนรู้คำศัพท์หรือวลีใหม่ๆ ในชีวิตประจำวันที่ตำราเรียนอาจไม่มี
-
แยกแยะระหว่างภาษาอังกฤษทั่วไปและภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (Academic English): นักศึกษาจำเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างนี้ ภาษาอังกฤษสำหรับการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย หรือการทำวิจัย ต้องการโครงสร้างประโยค คำศัพท์เฉพาะทาง (Technical Terms) และรูปแบบการเขียนที่เป็นทางการมากกว่าภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสนทนาทั่วไป การฝึกอ่านตำรา บทความวิจัย และการฝึกเขียนรายงานเชิงวิชาการจะช่วยพัฒนาทักษะส่วนนี้ได้ชัดเจน
-
อ่านหลากหลายประเภท: ไม่ควรจำกัดการอ่านเพียงแค่ตำราเรียน การอ่านหลากหลายประเภททั้งข่าวสารออนไลน์ นิตยสาร บทความความสนใจ บล็อก หรือวรรณกรรมเบาๆ ช่วยให้ได้คำศัพท์ใหม่ๆ และเห็นรูปแบบการเขียนที่แตกต่างกัน ข้อแนะนำคือพกสมุดบันทึกคำศัพท์เล็กๆ หรือใช้แอพพลิเคชันบันทึกเพื่อจดคำศัพท์ใหม่ และทบทวนเป็นประจำ พยายามเรียนรู้จากบริบทของการใช้คำนั้นๆ ไม่ใช่แค่คำแปล
เคล็ดลับทั้ง 7 ข้อนี้ เป็นแนวทางที่ได้รับการยืนยันจากติวเตอร์ผู้มากประสบการณ์ว่าได้ผลจริงสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความสม่ำเสมอ และ ความกล้าที่จะฝึกฝน แม้จะผิดพลาดก็ตาม การนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้อย่างจริงจังควบคู่ไปกับการเรียนในห้องเรียน จะช่วยให้นักศึกษาสามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์