สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมกับการลองใช้ Palfish Class ดูบ้าง เผื่อใครกำลังเล็งๆ หรืออยากรู้ว่าเป็นยังไง ขอบอกก่อนว่านี่คือจากที่ผมลองผิดลองถูกด้วยตัวเองล้วนๆ นะครับ
จุดเริ่มต้นกับ Palfish Class
เรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากช่วงนั้นผมเบื่อๆ เซ็งๆ อยากหาอะไรทำใหม่ๆ แล้วก็มีเพื่อนคนนึงนี่แหละ มันทำ Palfish อยู่แล้วก็มาไซโค เอ้ย! มาแนะนำอยู่เรื่อยว่า “ลองดิแก มันดีนะ ได้ฝึกภาษา ได้ตังค์ด้วย” ตอนแรกก็ฟังหูไว้หูครับ ไม่ได้คิดจะจริงจังอะไร แต่พอโดนบิ้วท์บ่อยๆ เข้า อะ! ลองก็ลองวะ! ไม่เสียหาย
ขั้นตอนแรกเลยก็คือโหลดแอปพลิเคชันมาก่อนเลยครับ หน้าตาก็ดูใช้ง่ายดีนะ จากนั้นก็เริ่มสร้างโปรไฟล์ โอ้โห ช่วงนี้แหละที่ข้อมูลต้องกรอกเยอะพอสมควร ทั้งข้อมูลส่วนตัว ประสบการณ์ (ถ้ามี) แล้วก็ที่สำคัญเลยคือต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองส่งไปด้วย ตอนอัดวิดีโอนี่ก็เขินๆ หน่อยครับ พูดอังกฤษตะกุกตะกักบ้าง แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด คิดซะว่าเหมือนออดิชั่นเล็กๆ ฮ่าๆๆ
หลังจากส่งข้อมูลทุกอย่างไปเรียบร้อย ก็ต้องรอทาง Palfish อนุมัติครับ ช่วงรอนี่ใจเต้นตึ้กตั้กเลยนะ กลัวไม่ผ่าน แต่ก็ไม่นานเกินรอครับ ประมาณวันสองวันก็มีแจ้งเตือนมาว่า “ยินดีด้วย! คุณผ่านการอนุมัติแล้ว” ดีใจสิครับ รออะไร!
ลงสนามจริง สอนออนไลน์ครั้งแรก
พอโปรไฟล์ผ่านฉลุย ผมก็เริ่มเข้าไปตั้งค่าตารางสอนของตัวเองเลยครับ เราสามารถเลือกเวลาที่เราสะดวกได้เอง ซึ่งผมว่ามันยืดหยุ่นดีมาก เหมาะกับคนที่มีงานประจำหรืออยากทำเป็นอาชีพเสริม ตอนแรกก็ยังงงๆ ว่าจะมีคนมาจองคลาสเราไหมนะ แต่พอเปิดตารางไปได้ไม่นาน ก็มีแจ้งเตือนนักเรียนคนแรกจองเข้ามา! ตื่นเต้นสุดๆ ครับ
คลาสแรกนี่จำได้แม่นเลย ผมเตรียมตัวเยอะมาก กลัวสอนไม่ดี กลัวเด็กเบื่อ หาพร็อพตุ๊กตุ่นตุ๊กตามาเต็มไปหมด พอถึงเวลาสอนจริง ก็มีติดขัดบ้างนิดหน่อยครับ ทั้งเรื่องการใช้เครื่องมือในแอป (ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก) ทั้งเรื่องการดึงความสนใจของเด็กเล็กๆ แต่โดยรวมก็ผ่านไปได้ด้วยดี เด็กก็น่ารัก พยายามตอบโต้เราตลอด
สิ่งที่ผมชอบใน Palfish คือเขามีสื่อการสอนสำเร็จรูปมาให้เลยครับ เป็นสไลด์ มีรูปภาพ มีเพลง มีเกมให้เด็กเล่น ทำให้เราไม่ต้องเหนื่อยเตรียมเนื้อหาเองทั้งหมด แค่ทำความเข้าใจบทเรียนแล้วก็สอนตามนั้นได้เลย แต่บางทีผมก็มีหาอะไรเสริมเข้าไปบ้างเพื่อให้มันดูน่าสนใจมากขึ้น
สิ่งที่เจอและสิ่งที่ได้เรียนรู้
พอสอนไปได้สักพัก ผมก็เริ่มจับทางได้มากขึ้นครับ รู้ว่าเด็กแต่ละคนมีสไตล์การเรียนรู้ไม่เหมือนกัน บางคนชอบเล่นเกม บางคนชอบฟังนิทาน เราก็ต้องปรับวิธีการสอนของเราไปเรื่อยๆ เรื่องที่ต้องเจอแน่ๆ ก็คือปัญหาอินเทอร์เน็ตครับ บางทีสัญญาณไม่ดี เสียงขาดๆ หายๆ ก็ต้องแก้ปัญหากันไป แต่ส่วนใหญ่เด็กๆ และผู้ปกครองก็เข้าใจดี
อีกอย่างที่เจอคือ เด็กบางคนก็สมาธิสั้นมากครับ สอนๆ อยู่ก็ลุกวิ่งไปนู่นมานี่ เราก็ต้องพยายามหาวิธีดึงเขากลับมาให้ได้ ซึ่งตรงนี้ก็ท้าทายความสามารถเราเหมือนกันนะ แต่พอเห็นเด็กๆ เขาเริ่มพูดได้ เริ่มเข้าใจสิ่งที่เราสอน มันก็เป็นอะไรที่ภูมิใจและมีความสุขมากๆ ครับ เหมือนเราได้เป็นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยให้เขาเก่งขึ้น
ถ้าให้สรุปประสบการณ์กับ Palfish Class โดยรวมผมว่ามันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ ได้ฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองไปในตัว (เพราะต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษตลอด) ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ (ทั้งครูคนอื่นและนักเรียน) ส่วนเรื่องรายได้ก็ถือว่าโอเคเลยครับ ถ้าเราขยันเปิดสอนเยอะก็ได้เยอะตามนั้น
ใครที่กำลังมองหาช่องทางสอนออนไลน์ หรืออยากลองอะไรใหม่ๆ ผมว่า Palfish ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจนะครับ ลองไปศึกษาข้อมูลดู แต่ก็ต้องเตรียมใจไว้หน่อยว่ามันไม่ใช่งานที่สบายอย่างเดียว มันก็มีเรื่องให้เราต้องจัดการและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเหมือนกันครับ ลองดูครับ ไม่เสียหาย!