สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ที่ผมลองไปด้อมๆ มองๆ แอปสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ ที่ชื่อ PalFish เนี่ยแหละ คือลูกหลานที่บ้านเริ่มโต อยากให้ได้ภาษาอังกฤษติดตัวบ้าง ก็เลยต้องเริ่มหาข้อมูลกันหน่อย
เริ่มต้นการสำรวจ PalFish
ตอนแรกเลยเนี่ย ผมก็เหมือนหลายๆ คนแหละครับ คือได้ยินชื่อ PalFish มาบ้างผ่านๆ ตามโฆษณา หรือรีวิวในเน็ต แต่ไม่เคยลองเข้าไปดูจริงจังสักที พอคิดว่าจะหาคอร์สให้เจ้าตัวเล็กที่บ้าน ผมก็เริ่มจากถามเพื่อนๆ พ่อแม่คนอื่นๆ ก่อนเลยว่ามีใครเคยใช้ไหม เป็นยังไงบ้าง คำตอบที่ได้ก็หลากหลายครับ บางคนก็ว่าดี ลูกชอบ บางคนก็ว่าเฉยๆ บางคนก็บอกว่าราคาสูงไปหน่อย
เอาล่ะสิ! ข้อมูลเริ่มตีกันในหัว ผมเลยตัดสินใจว่า “ลองเองเลยดีกว่า!” ว่าแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมา กดเข้า App Store แล้วพิมพ์ค้นหา “PalFish” เจอแอปปุ๊บก็กดดาวน์โหลดทันทีเลยครับ ไม่ต้องคิดมาก
เปิดแอปครั้งแรก และการลองใช้งานเบื้องต้น
พอติดตั้งเสร็จ เปิดแอปเข้ามา โอ้โห! หน้าตาแอปสีสันสดใสมากครับ มีตัวการ์ตูนน่ารักๆ เต็มไปหมด ดูแล้วดึงดูดเด็กๆ ได้ดีเลยทีเดียว ผมก็ลองกดๆ จิ้มๆ ไปตามเมนูต่างๆ ที่เค้ามีให้ดูก่อน ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่คอร์สเรียนกับครูต่างชาติที่เป็นเจ้าของภาษาโดยตรง อันนี้ผมว่าน่าสนใจนะ เพราะอยากให้เด็กได้สำเนียงที่ถูกต้อง
ผมเห็นว่ามันมีให้เลือกครูได้ด้วยนะ มีโปรไฟล์ครูแต่ละคนบอกว่ามาจากประเทศอะไร ประสบการณ์สอนเป็นยังไงบ้าง แล้วก็มีพวกคลาสทดลองเรียนด้วย อันนี้ดีเลย จะได้ลองดูก่อนว่าลูกเราจะโอเคกับสไตล์การสอนของครูคนนั้นๆ ไหม
- ประเภทคอร์สเรียน: เท่าที่ดูก็มีหลากหลายนะครับ ทั้งแบบตัวต่อตัว แบบกลุ่มเล็กๆ เนื้อหาก็มีตั้งแต่ขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กเล็ก ไปจนถึงระดับที่โตขึ้นมาหน่อย
- รูปแบบการสอน: เค้าจะเน้นการสอนผ่านกิจกรรม เกม เพลง ทำให้เด็กไม่รู้สึกเบื่อ เหมือนได้เล่นไปด้วยเรียนไปด้วย
มาถึงเรื่องสำคัญ: PalFish ราคาเป็นยังไง?
ทีนี้มาถึงประเด็นที่หลายคนอยากรู้ และตัวผมเองก็อยากรู้มากๆ นั่นคือเรื่อง ราคา ครับ! จากที่ผมลองกดเข้าไปดูในส่วนของคอร์สเรียนต่างๆ เนี่ย PalFish เค้าไม่ได้มีราคาตายตัวแบบเป็นรายเดือนเป๊ะๆ นะครับ ส่วนใหญ่มันจะเป็นลักษณะของ แพ็กเกจคอร์สเรียน มากกว่า
หมายความว่ายังไง? ก็คือ เค้าจะขายเป็นจำนวนครั้ง หรือจำนวนบทเรียน เช่น แพ็กเกจ 25 นาที 30 ครั้ง ราคาเท่านี้, แพ็กเกจ 50 ครั้ง ราคาเท่านี้ ยิ่งซื้อเยอะ จำนวนครั้งเยอะ ราคาก็อาจจะถูกลงมาหน่อยต่อครั้ง อะไรประมาณนั้นครับ แล้วก็จะมีระยะเวลาของคอร์สกำกับไว้ด้วยว่าต้องเรียนให้หมดภายในกี่เดือน
ถ้าให้ผมพูดตรงๆ นะครับ ราคาก็ถือว่า ค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน เมื่อเทียบกับการเรียนพิเศษแบบอื่นๆ หรือการหาครูคนไทยสอน แต่ถ้ามองในมุมที่ได้เรียนกับเจ้าของภาษาจริงๆ ได้ฝึกสำเนียง ความสะดวกสบายที่ไม่ต้องเดินทาง อันนี้ก็อาจจะเป็นจุดที่หลายคนยอมจ่าย
ผมลองคำนวณคร่าวๆ ดู ตกครั้งนึงก็หลายร้อยบาทอยู่ครับ ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่เราเลือกเลย ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ผมว่าต้องดูงบประมาณในกระเป๋าเราให้ดีๆ ก่อน และอาจจะต้องลองหาคลาสทดลองเรียน หรือแพ็กเกจเล็กๆ ดูก่อนว่าลูกเราชอบจริงไหม คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า
สรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวของผม
หลังจากที่ได้ลองเข้าไปสำรวจแอป PalFish ด้วยตัวเอง ลองกดดูนู่นนี่นั่น อ่านรายละเอียดคอร์ส และพิจารณาเรื่องราคาแล้ว ผมขอสรุปตามความเห็นส่วนตัวแบบนี้ครับ:
ข้อดีที่เห็นชัดๆ:
- ครูเจ้าของภาษา: อันนี้เป็นจุดแข็งหลักเลย ทำให้เด็กได้ฝึกฟังและพูดสำเนียงที่ถูกต้อง
- ความสะดวก: เรียนที่บ้านได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง แค่มีอินเทอร์เน็ตกับอุปกรณ์ก็พร้อมเรียน
- เนื้อหาน่าสนใจ: มีเพลง เกม การ์ตูน ทำให้เด็กๆ สนุก ไม่เบื่อ
- เลือกครูได้: สามารถดูโปรไฟล์และเลือกครูที่คิดว่าน่าจะเข้ากับลูกเราได้
ข้อที่อาจจะต้องพิจารณา:
- ราคา: อย่างที่บอกไปครับ ราคาสูงพอสมควร ต้องวางแผนการเงินดีๆ
- ความต่อเนื่อง: ต้องอาศัยวินัยทั้งของเด็กและผู้ปกครองในการเรียนอย่างสม่ำเสมอ
- คุณภาพครู: แม้จะเลือกได้ แต่บางทีก็อาจจะต้องลองผิดลองถูกกว่าจะเจอครูที่ “คลิก” กับลูกเราจริงๆ
- การโต้ตอบ: แม้จะเรียนกับครูสดๆ แต่ก็ยังเป็นการเรียนผ่านหน้าจอ อาจจะไม่ได้การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเท่าการไปเรียนในห้องเรียนจริงๆ
ส่วนตัวผมเอง หลังจากลองด้อมๆ มองๆ ดูแล้ว ก็คิดว่า PalFish เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ แต่คงยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อแพ็กเกจใหญ่ในทันที อาจจะลองหาคลาสทดลองเรียนให้เจ้าตัวเล็กที่บ้านลองดูก่อน ถ้าเค้าดูสนุกและสนใจจริงๆ ค่อยมาพิจารณากันอีกทีเรื่องแพ็กเกจระยะยาว
หวังว่าประสบการณ์ที่ผมเอามาแชร์วันนี้ น่าจะเป็นประโยชน์กับพ่อๆ แม่ๆ ที่กำลังมองหาคอร์สสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูกๆ กันอยู่นะครับ ลองเอาข้อมูลที่ผมให้ไปประกอบการตัดสินใจดูนะครับ แต่ละบ้านก็มีความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกันไป ลองเลือกที่เหมาะสมกับเราที่สุดครับ!