สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ กับการลองเข้าไปส่องๆ มองๆ แอป Palfish โดยเฉพาะเรื่อง “ราคา” ที่หลายคนน่าจะอยากรู้เหมือนผมนี่แหละ คือเรื่องมันเริ่มมาจากลูกชายผมนี่แหละครับ เริ่มโตแล้ว ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนมันก็เหมือนจะไม่ค่อยพอ อยากให้แกได้พูดได้คุยกับเจ้าของภาษาจริงๆ จังๆ บ้าง
จุดเริ่มต้นการตามล่าหาที่เรียนออนไลน์
ก็เลยเริ่มภารกิจเลยครับ ถามเพื่อนฝูงคนนั้นคนนี้ว่ามีที่ไหนแนะนำบ้างไหม จนมีเพื่อนคนนึงบอกว่า “ลอง Palfish ดูสิ ลูกฉันเรียนอยู่ เวิร์คดีนะ” อะ พอได้ยินแบบนั้นก็หูผึ่งเลยสิครับ รออะไรล่ะ กลับบ้านมาก็จัดการโหลดแอปมาลองเลยทันที
ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนะ คิดว่าก็คงเหมือนๆ แอปสอนภาษาทั่วไป แต่พอสมัครเข้าไป (ซึ่งขั้นตอนการสมัครก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยนะ กรอกข้อมูลนิดๆ หน่อยๆ ก็เสร็จ) ก็เริ่มเห็นความแตกต่างละ
สำรวจครูและคอร์สเรียนใน Palfish
สิ่งที่ผมทำเป็นอย่างแรกเลยคือเข้าไปดูโปรไฟล์ครูครับ โอ้โห มีให้เลือกเยอะมากกก ทั้งครูฝรั่งแท้ๆ ครูฟิลิปปินส์ก็มี ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิดีโอแนะนำตัวสั้นๆ ให้เราดู มีรีวิวจากผู้เรียนคนอื่นๆ ให้อ่านประกอบการตัดสินใจด้วย ผมก็นั่งไล่ดูไปเรื่อยๆ เพลินดีเหมือนกันนะ
ทีนี้ก็มาถึงส่วนที่ผมตั้งใจจะมาดูเป็นพิเศษเลย คือเรื่อง “ราคา” ครับ เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าเศรษฐกิจช่วงนี้มันก็ไม่ได้จะดีเด่อะไรมากมายนัก การจะจ่ายเงินแต่ละทีก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ตอนนั้นผมเองก็เพิ่งเอาเงินเก็บไปลงกับการเปิดร้านกาแฟเล็กๆ กับเพื่อนไปหมาดๆ เงินหมุนก็ยังไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่เลย
รีวิวราคา Palfish แบบไม่อวย
ผมก็พยายามมองหาว่า เอ๊ะ ราคาคอร์สมันอยู่ตรงไหนนะ? ดูยังไง? ก็พบว่ามันมีหลายรูปแบบมากๆ ครับ
บางคอร์สก็จะเป็นแบบเหมาจ่ายเป็นแพ็กเกจ เรียนกี่ครั้งก็ว่ากันไป ราคาก็จะถูกลงมาหน่อยถ้าซื้อเยอะๆ
บางคนครูก็จะคิดราคาเป็นต่อบทเรียน หรือต่อนาทีก็มี อันนี้ก็แล้วแต่ครูแต่ละคนจะตั้งเลย
แล้วก็จะมีคอร์สเฉพาะทางต่างๆ ที่ราคาอาจจะแตกต่างกันออกไปอีก
ถามว่าแพงไหม? เอาจริงๆ นะครับ มันมีตั้งแต่ราคาที่จับต้องได้ ไปจนถึงราคที่แบบ…อื้อหือ ต้องคิดหนักเลยล่ะ คือถ้าเป็นครูที่มีโปรไฟล์ดีมากๆ ประสบการณ์สูงปรี๊ด หรือเป็นครู Native Speaker ที่มาจากประเทศที่ค่าครองชีพสูงๆ ราคามันก็อาจจะแรงตามไปด้วยเป็นธรรมดา
แต่… มันก็มีครูใหม่ๆ หรือครูจากประเทศที่ค่าครองชีพไม่สูงมาก ที่ราคาน่ารักๆ ให้เราได้ลองเรียนดูก่อนเหมือนกันนะ คือมันไม่ได้มีแต่ของแพงอย่างเดียว มันมีตัวเลือกหลากหลายมาก
ตอนนั้นผมเองก็แอบใจแป้วไปเหมือนกันนะตอนเห็นราคาครูบางคน คือแบบ โห ลูกเราจะไหวไหมเนี่ย แต่ก็พยายามใจเย็นๆ ค่อยๆ เลื่อนดูไปเรื่อยๆ เปรียบเทียบโปรไฟล์กับราคาของแต่ละคน จนไปเจอครูคนนึงที่ดูโปรไฟล์โอเคเลย ราคาก็พอสู้ไหว ไม่ได้แรงจนเกินงบที่เราตั้งไว้
สรุปจากประสบการณ์ตรง
ก็เลยตัดสินใจลองให้ลูกเรียนแบบสั้นๆ ดูก่อนครับ ผลปรากฏว่าลูกก็ดูชอบนะ เขาได้คุยกับครูแบบตัวต่อตัวจริงๆ ไม่ใช่แค่เรียนตามตำรา มันก็ช่วยให้เขากล้าพูดมากขึ้น
ถ้าให้สรุปเรื่อง “ราคา” ของ Palfish จากที่ผมไปลองส่องมานะ ผมว่ามันขึ้นอยู่กับว่าเรามองหาอะไร และมีงบประมาณเท่าไหร่ครับ มันไม่ได้มีราคาตายตัวแบบว่า “Palfish ราคาเท่านี้” เป๊ะๆ แต่มันมีตัวเลือกเยอะมากจริงๆ ตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง
คำแนะนำของผมคือ ต้องลองเข้าไปดูเองครับ ลองเลือกครูที่ถูกใจ ดูโปรไฟล์ อ่านรีวิว แล้วก็ดูเรื่องราคาประกอบกันไป ถ้าเจอคนที่ใช่ ในราคาที่รับได้ มันก็ถือว่าคุ้มค่านะ เพราะลูกเราได้เรียนภาษาจากที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางด้วย
หวังว่าที่มาแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาข้อมูลเรื่อง Palfish รีวิว ราคา อยู่นะครับ ลองเข้าไปสำรวจกันดูเองเลย ไม่เสียหายอะไร!