สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลย เกี่ยวกับเรื่องค่าเรียนของ PalFish ที่หลายคนอาจจะกำลังสนใจ หรือหาข้อมูลกันอยู่ ผมเองก็เป็นคนนึงที่เคยผ่านช่วงนั้นมาเหมือนกันครับ
เรื่องของเรื่องคือ ผมอยากให้ลูกได้ลองเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาดูบ้าง ก็เลยเริ่มมองหาคอร์สออนไลน์ต่างๆ แล้วก็ได้ยินชื่อ PalFish มาพอสมควร ก็เลยอ่ะ ลองดูซักหน่อยซิว่ามันเป็นยังไง
ขั้นตอนแรกที่ผมทำเลยก็คือ การเริ่มค้นหาข้อมูล ครับ ตอนนั้นก็เข้าไปดูในเว็บไซต์ของเค้าก่อนเลย แล้วก็ลองเสิร์ชหาตามกลุ่มผู้ปกครองต่างๆ ในเฟซบุ๊กบ้าง พันทิปบ้าง คือพยายามเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดว่าคนอื่นเค้าพูดถึงกันยังไง โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายนี่แหละครับที่อยากรู้เป็นพิเศษ
ทีนี้ พอเริ่มเจาะลึกไปที่เรื่อง “ค่าเรียน” เนี่ย ผมพบว่ามันไม่ได้มีราคาเดียวเป๊ะๆ แบบตายตัวนะ มันมีหลายปัจจัยมากๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
ปัจจัยที่ผมเจอว่ามีผลกับค่าเรียน PalFish
จากที่ผมไปสืบๆ ค้นๆ มาเนี่ยนะ หลักๆ เลยมันจะมีประมาณนี้ครับ:
- ประเภทของคอร์สเรียน: อันนี้ชัดเจนเลยครับ เค้ามีคอร์สหลายแบบให้เลือก อย่างเช่น คอร์สเรียนตัวต่อตัวกับคุณครูต่างชาติโดยตรง อันนี้ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อยเป็นธรรมดา เพราะเหมือนได้เรียนแบบไพรเวทเลย แล้วก็จะมีคอร์สแบบกลุ่มเล็กๆ อันนี้ราคาก็จะย่อมเยาลงมาหน่อย เหมาะสำหรับคนที่อาจจะมีงบจำกัด หรืออยากให้ลูกได้มีเพื่อนเรียนด้วย
- จำนวนคลาสที่ซื้อ: อันนี้ก็เหมือนซื้อของทั่วไปครับ ยิ่งซื้อเยอะเป็นแพ็กเกจใหญ่ ราคาต่อคลาสเฉลี่ยมันก็จะถูกลง เค้าก็จะมีโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ เช่น ซื้อ 60 คลาส ราคาต่อคลาสเท่านี้ ซื้อ 120 คลาส ราคาต่อคลาสก็จะถูกลงไปอีก อะไรทำนองนี้ครับ ผมก็ต้องมานั่งคำนวณดูว่าแบบไหนมันคุ้มค่ากับเราที่สุด
- โปรโมชั่นและส่วนลดในช่วงนั้นๆ: อันนี้เป็นอะไรที่ต้องคอยติดตามเลยครับ บางช่วงเค้าก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมา เช่น ลดราคาค่าคอร์ส แถมคลาสเพิ่ม หรือมีของแถมอื่นๆ ตอนที่ผมดูก็มีโปรฯ น่าสนใจหลายตัวเลย แต่ก็ต้องอ่านเงื่อนไขดีๆ นะครับ บางทีโปรฯ มันดูดี แต่ก็อาจจะมีข้อผูกมัดบางอย่าง
- คุณสมบัติของครูผู้สอน: อันนี้ผมไม่แน่ใจว่ามันมีผลโดยตรงกับราคาที่โชว์ให้เราเห็นชัดเจนมั้ย แต่ผมเดาว่าครูที่มีประสบการณ์สูงๆ หรือเป็น Native Speaker แท้ๆ ก็น่าจะมีเรทที่ต่างกันไปบ้างในระบบของเค้า ซึ่งมันอาจจะสะท้อนมาที่ราคาแพ็กเกจโดยรวมที่เราเลือกได้
ประสบการณ์ตอนตัดสินใจของผม
ตอนนั้นผมก็ค่อนข้างสับสนพอสมควรครับ เพราะตัวเลือกมันเยอะ แล้วแต่ละอันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ผมเลยลองใช้วิธีนี้:
- ลิสต์ความต้องการของตัวเองก่อน: ว่าอยากให้ลูกเรียนแบบไหน เน้นอะไรเป็นพิเศษ งบประมาณที่มีเท่าไหร่ การลิสต์พวกนี้ออกมาช่วยให้ผมโฟกัสได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ
- ติดต่อสอบถามโดยตรง: ผมตัดสินใจทักไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของ PalFish เลยครับ ถามให้ละเอียดเลยว่าแต่ละแพ็กเกจมันต่างกันยังไง มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ขอลองดูตารางเรียน หรือตัวอย่างการสอน (ถ้ามี) ซึ่งเจ้าหน้าที่เค้าก็ให้ข้อมูลดีนะครับ ตอบคำถามค่อนข้างเคลียร์
- ลองคลาสทดลองเรียน: อันนี้สำคัญมาก! PalFish (และหลายๆ ที่) มักจะมีคลาสทดลองเรียนให้ ผมไม่พลาดโอกาสนี้เลยครับ เพราะมันทำให้เราได้เห็นจริงๆ ว่าลูกเราชอบมั้ย เข้ากับครูได้รึเปล่า สไตล์การสอนเป็นยังไง ก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงินก้อนใหญ่
- เปรียบเทียบกับที่อื่น: ถึงแม้จะสนใจ PalFish แต่ผมก็ไม่ได้มองข้ามตัวเลือกอื่นๆ นะครับ ผมก็ลองหาข้อมูลของที่เรียนออนไลน์เจ้าอื่นๆ มาเปรียบเทียบกันดู ทั้งในเรื่องของราคา รูปแบบการสอน รีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุด
สุดท้ายแล้ว หลังจากที่ได้ลองคลาสทดลองเรียน แล้วก็พิจารณาปัจจัยต่างๆ ทั้งหมด ผมก็ตัดสินใจเลือกแพ็กเกจที่คิดว่าเหมาะสมกับลูกและงบประมาณของเรามากที่สุดครับ ซึ่งตอนนั้นก็เลือกเป็นแพ็กเกจขนาดกลางๆ ไม่ได้ใหญ่มาก เพราะอยากลองดูไปก่อนซักระยะนึง
ก็หวังว่าประสบการณ์ที่ผมไปงมๆ ค้นๆ ข้อมูลเรื่องค่าเรียน PalFish มาด้วยตัวเองทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ หรือใครก็ตามที่กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่นะครับ การหาข้อมูลเยอะๆ เปรียบเทียบดีๆ และที่สำคัญคือการได้ลองเรียนจริงๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ไม่พลาดครับผม!