เอ้อ PalFish เนี่ยนะ หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง หรือบางคนก็ยังงงๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังจากประสบการณ์ตรงๆ ที่เคยลองใช้มันมากับตัวเองเลย ไม่ได้อ้างอิงจากใครทั้งนั้น
คือต้องบอกก่อนว่า ไอ้แอปสอนออนไลน์เนี่ย มันมีเยอะแยะเต็มไปหมดเลยนะช่วงนี้ PalFish ก็เป็นหนึ่งในนั้นแหละ หลักๆ เลยที่เห็นคนเค้าใช้กันเยอะๆ ก็คือเอาไว้สอนภาษาอังกฤษเด็กๆ ชาวจีน ว่างั้นเถอะ ตอนแรกที่ได้ยินชื่อนี่ก็แบบ อะไรฟิชๆ ปลาๆ เหรอวะ ฮ่าๆๆ
แล้วไปไงมาไงถึงได้ไปลองใช้ PalFish ล่ะ?
เรื่องของเรื่องก็คือ ช่วงนั้นน่ะ งานประจำมันก็เริ่มๆ จะเอื่อยๆ เงินเดือนก็เท่าเดิม อยากหาอะไรทำเสริมแก้เบื่อ แล้วก็เผื่อจะได้ตังค์ค่าขนมเพิ่มบ้างไง ตามประสาคนขี้งก เอ้ย! คนขยันสิ! ก็เลยนั่งไถๆ มือถือหาข้อมูลไปเรื่อยเปื่อย จนไปเจอเจ้า PalFish นี่แหละ เห็นคนพูดถึงกันอยู่บ้าง มีทั้งคนที่บอกว่าดี คนที่บอกว่าเฉยๆ ก็เลยคิดในใจว่า เออ ลองเองแม่งเลยดีกว่า! จะได้รู้กันไปเลยว่ามันเป็นยังไงแน่ ไม่ต้องไปฟังคนอื่นพูดอย่างเดียว
ขั้นตอนการเริ่มลองผิดลองถูกกับ PalFish
พอตัดสินใจว่าจะลอง ก็ไม่รอช้าเลยจ้า โหลดแอปมาติดตั้งในมือถือก่อนเลย หน้าตาแอปมันก็ดูไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนะ ใช้งานง่ายๆ สไตล์แอปทั่วไปนั่นแหละ
ขั้นตอนการสมัครก็มีกรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไป แล้วก็มีที่สำคัญเลยคือต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ตอนแรกก็แอบเขินๆ นะ ไม่ค่อยได้พูดอะไรแบบนี้ออกกล้อง แต่ก็เอาน่า ลองดูซักตั้ง มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนั้น พออัดเสร็จส่งไป ก็ต้องรอทางโน้นเค้าอนุมัติก่อนนะ ไม่ใช่สมัครปุ๊บสอนได้ปั๊บ ต้องใจเย็นๆ รอนิดนึง
ระหว่างรอนี่ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นะ ก็เข้าไปส่องๆ ดูในแอปว่ามีอะไรให้ทำบ้าง มีคอร์สแบบไหนที่เค้าสอนกัน เด็กๆ ที่เรียนเป็นประมาณไหน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนว่างั้นเถอะ
พอได้เริ่มสอนจริง มันเป็นยังไงบ้างล่ะ?
พอได้รับการอนุมัติปุ๊บ ก็ได้เวลาเปิดรับนักเรียนแล้วจ้า ตื่นเต้นเหมือนกันนะช่วงแรกๆ นักเรียนส่วนใหญ่ที่เจอเป็นเด็กเล็กๆ เลย บางคนยังพูดไม่ค่อยชัดด้วยซ้ำ เราก็ต้องใช้พลังงานเยอะหน่อยในการดึงดูดความสนใจเค้า การสอนก็สอนผ่านแอปในมือถือหรือแท็บเล็ตนี่แหละ เปิดกล้องคุยกันไป สอนตามเนื้อหาที่ทาง PalFish เค้ามีให้ หรือบางทีก็เป็น Free Talk คุยเล่นทั่วไป
สิ่งที่เจอแน่ๆ เลยคือ:
- อินเทอร์เน็ตต้องดีจริง: อันนี้สำคัญมาก ถ้าเน็ตไม่เสถียรนี่จบเลยนะ สอนไปกระตุกไป เด็กก็ไม่สนุก เราก็หงุดหงิด
- ความอดทนต้องสูง: สอนเด็กเล็กอ่ะเนอะ บางทีก็มีงอแงบ้าง ไม่สนใจบ้าง เราก็ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดค่อยๆ สอนไป
- เวลาสอน: ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเย็นๆ หรือวันหยุด เพราะเป็นเวลาที่เด็กๆ จีนเค้าเลิกเรียนหรือว่างกัน
ถามว่ามันดีมั้ย? มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียนะ ข้อดีคือมันยืดหยุ่นเรื่องเวลา เราเลือกเวลาที่เราสะดวกได้ ทำจากที่ไหนก็ได้ที่มีเน็ตดีๆ ได้เจอเด็กๆ น่ารักๆ (ส่วนใหญ่ ฮ่าๆ) ได้ฝึกภาษาตัวเองไปด้วย ส่วนข้อเสียก็อย่างที่บอกไปเรื่องเน็ต เรื่องความอดทน แล้วก็บางทีการจองคลาสของนักเรียนมันก็ไม่แน่นอน ได้มากได้น้อยแล้วแต่ช่วง แล้วแต่โปรไฟล์เราด้วย
เรื่องรายได้ มันก็มีเรทของมันอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้นหรอกนะ สำหรับเรามองว่ามันเป็นรายได้เสริมขำๆ มากกว่าที่จะยึดเป็นอาชีพหลักได้ แต่ก็เห็นบางคนเค้าทำจริงจังจนเป็นรายได้หลักก็มีเหมือนกัน อันนี้ก็แล้วแต่คน แล้วแต่ความสามารถในการดึงดูดนักเรียนด้วยแหละ
สรุปแล้ว PalFish คืออะไรในมุมมองของฉัน
สำหรับฉันนะ PalFish มันก็คือแพลตฟอร์มสอนภาษาอังกฤษออนไลน์อีกตัวเลือกหนึ่ง ที่เหมาะสำหรับคนที่อยากหารายได้เสริม หรืออยากลองประสบการณ์สอนออนไลน์ดู มันไม่ได้สวยหรูเพอร์เฟคไปซะทุกอย่างหรอก มันก็มีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ต้องปรับตัว แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
ใครที่กำลังมองหาอะไรทำอยู่ หรือสนใจอยากลองสอนออนไลน์ดู PalFish ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจนะ แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลดีๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วก็ต้องลองด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่ามันใช่สำหรับเราหรือเปล่า เพราะประสบการณ์ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันหรอกเนอะ