สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ กับแอป PalFish ที่หลายคนถามกันเข้ามาเยอะเลยว่ามันดีจริงไหม แล้วราคามันเป็นยังไง ผมเองก็เป็นคนนึงที่สงสัยเหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจลองใช้ดูสักพักใหญ่ๆ เลยครับ จะได้มาเล่าให้ฟังกันแบบหมดเปลือกไปเลย
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมลอง PalFish
คือเรื่องของเรื่องเนี่ย ลูกชายผมมันเริ่มโต อยากให้ได้ภาษาอังกฤษติดตัวบ้าง แต่ด้วยความที่งานผมก็ยุ่ง จะให้ไปส่งเรียนพิเศษข้างนอกก็ลำบากเรื่องเวลา แล้วก็เดินทางอีก เลยเริ่มมองหาตัวช่วยออนไลน์ เพื่อนมันก็แนะนำมา บอกลองดู PalFish สิแก เห็นเค้าว่าดี ครูเป็นเจ้าของภาษาเลย ผมก็เออ น่าสนใจว่ะ ลองดูหน่อยแล้วกัน

ขั้นตอนการลองใช้งานจริงของผม
ผมก็เริ่มจากโหลดแอป PalFish มาติดตั้งในแท็บเล็ตของลูกเลยครับ การสมัครสมาชิกก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร กรอกข้อมูลนิดหน่อยก็เสร็จ พอเข้าไปในแอปครั้งแรก โอ้โห! ครูเยอะมาก มีให้เลือกเพียบเลย ทั้งครูที่เป็น Native Speaker ครูฟิลิปปินส์ก็มี โปรไฟล์แต่ละคนก็น่าสนใจ มีวิดีโอแนะนำตัวด้วย
ตอนแรกผมก็ยังงงๆ ว่าจะเลือกครูคนไหนดี ก็เลยลองใช้ฟังก์ชันทดลองเรียนฟรีดูก่อนครับ เหมือนบางช่วงเค้าจะมีโปรโมชั่นให้ทดลองเรียนได้สั้นๆ หรือบางทีก็มีคลาสเรียนกลุ่มราคาไม่แพง ผมก็จิ้มๆ เลือกครูที่ดูใจดีๆ หน่อย แล้วก็จองเวลาเรียนไป
พอถึงเวลาเรียนจริง ลูกชายผมก็ตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ครูเค้าก็ชวนคุยเก่งนะ พยายามใช้เกมบ้าง เพลงบ้าง ทำให้บรรยากาศมันไม่เครียด ลูกผมก็เริ่มกล้าพูดตาม กล้าตอบโต้มากขึ้น ผมแอบดูอยู่ห่างๆ ก็เออ มันก็ได้ผลแฮะ อย่างน้อยลูกก็ได้ฟังสำเนียงเจ้าของภาษาจริงๆ
แล้วเรื่องราคาล่ะ? คุ้มไหม?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนอยากรู้คือ ราคา PalFish เนี่ย มันก็มีหลายแบบครับ มีทั้งแบบจ่ายเป็นครั้งๆ หรือซื้อเป็นแพ็กเกจ ซึ่งถ้าซื้อเป็นแพ็กเกจเยอะๆ ราคต่อคลาสก็จะถูกลงมาหน่อย
ถ้าถามผมว่าคุ้มไหม ผมว่ามันก็คุ้มค่าในระดับนึงเลยนะ โดยเฉพาะถ้าเทียบกับการไปเรียนพิเศษข้างนอก ที่ต้องเสียทั้งค่าเรียน ค่าเดินทาง แถมบางทีลูกอาจจะไม่ได้พูดเต็มที่เพราะเด็กในห้องเยอะ แต่ PalFish นี่คือเรียนตัวต่อตัวเลย ครูโฟกัสที่เราคนเดียว
ผมลองคำนวณดูแล้ว ถ้าเราเลือกครูดีๆ แล้วซื้อเป็นแพ็กเกจ ตกคลาสละไม่กี่ร้อยบาทเองครับ ซึ่งผมว่ามันก็โอเคนะ ลูกได้ฝึกทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย ดีกว่าไม่ได้ฝึกเลย
ข้อดีข้อเสียจากประสบการณ์ตรง
จากที่ผมลองใช้มาสักพัก ผมก็พอจะสรุปข้อดีข้อเสียได้ประมาณนี้ครับ
- ข้อดี:
- สะดวกมาก เรียนที่ไหนก็ได้ที่มีเน็ต
- ครูเยอะ มีตัวเลือกหลากหลาย
- ได้เรียนกับเจ้าของภาษาจริงๆ (ถ้าเลือกครู Native)
- ราคาค่อนข้างยืดหยุ่น มีหลายแพ็กเกจ
- ลูกได้ฝึกพูดจริงๆ เพราะเป็นคลาสตัวต่อตัว
- ข้อควรพิจารณา:
- ต้องมีวินัยในการเรียนพอสมควร เพราะถ้าไม่จองคลาสก็ไม่ได้เรียน
- คุณภาพครูแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ต้องใช้เวลาเลือกหน่อย
- ถ้าเน็ตไม่ดี อาจจะมีปัญหาเรื่องสัญญาณภาพและเสียงได้
- ผู้ปกครองอาจจะต้องช่วยดูแลในช่วงแรกๆ โดยเฉพาะเด็กเล็ก
สรุปแล้ว PalFish ดีไหม?
สำหรับผมนะ หลังจากที่ได้ลองให้ลูกเรียนจริงจังมาพักใหญ่ๆ ผมว่า PalFish มันก็เป็นเครื่องมือที่ดีมากๆ ตัวหนึ่งเลยครับ ถ้าถามว่า palfish ดีไหม ผมตอบได้เลยว่า “ดี” ครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความคาดหวัง และการเลือกครูของเราด้วย ส่วนเรื่องราคา ผมว่ามันก็สมเหตุสมผล ไม่ได้แพงจนเกินไป ถ้าเทียบกับสิ่งที่ลูกเราจะได้รับ
สุดท้ายนี้ ผมว่าถ้าใครกำลังมองหาคลาสเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูก PalFish ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ครับ ลองโหลดมาดูก่อน ลองใช้คลาสทดลองเรียนฟรีก่อนก็ได้ครับ จะได้รู้ว่ามันเหมาะกับลูกเราไหม ของแบบนี้ต้องลองเองถึงจะรู้ดีที่สุดครับ!