สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยนะครับ เรื่องการหาโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ เนี่ย มันเป็นอะไรที่ผมเองก็เคยปวดหัวมาก่อน
คือผมเองเนี่ย สมัยเรียนภาษาอังกฤษมาแบบท่องจำแกรมม่าล้วนๆ เลยครับ ผลลัพธ์ก็คือ…ก็อย่างที่เห็น พูดไม่ได้ ฟังไม่รู้เรื่อง พอถึงคราวลูกตัวเองเลยตั้งปณิธานไว้เลยว่า ลูกฉันต้องไม่เป็นแบบฉัน! กะว่าต้องหาที่เรียนดีๆ ให้ได้เลย
ตะลุยดงโรงเรียนสอนภาษา
ผมเริ่มภารกิจตามล่าหาโรงเรียนให้เจ้าตัวเล็กครับ โอ้โห…เยอะแยะไปหมดครับ มีทั้งแบบ:
- โรงเรียนอินเตอร์จ๋า: แบบว่าค่าเทอมนี่เห็นแล้วลมจับ ครูฝรั่งมาเต็ม แต่บางทีก็สอนแบบฝรั่งเกิ๊น เด็กไทยเราก็งงสิครับ ฟังไม่ออก บอกไม่ถูก
- โรงเรียนเน้นแกรมม่าเทพ: อัดแต่หลักไวยากรณ์เข้าไป เด็กนั่งทำแบบฝึกหัดจนหน้ามืด แต่พอให้พูดจริงๆ ก็ติดอ่าง อ้ำๆ อึ้งๆ เหมือนเดิม
- โรงเรียนเล่นสนุกสุดเหวี่ยง: อันนี้กิจกรรมเยอะ เกม เพลง มาเต็ม เด็กชอบมาก แต่บางทีก็เล่นกันเพลินจนลืมไปเลยว่ามาเรียนภาษาอังกฤษนะเฟ้ย คำศัพท์ใหม่ๆ แทบไม่ได้
- โรงเรียนครูไทยสำเนียงเป๊ะ: ครูไทยนี่เก่งจริงๆ นะครับ สอนดี เข้าใจเด็กไทยเลย แต่บางทีเด็กก็ยังเขินๆ ไม่กล้าพูดกับฝรั่งตัวเป็นๆ อยู่ดี
ผมตระเวนดูมาหลายที่เลยครับ บางที่โฆษณาซะดิบดี พอเข้าไปดูการสอนจริงๆ แล้วก็…เอ่อ…ไม่รู้จะพูดยังไงเลยครับ บางที่ก็กดดันเด็กเล็กๆ เกินไป จนลูกไม่อยากไปโรงเรียนก็มีให้เห็นมาแล้ว
จุดเปลี่ยนของผมกับเจ้าตัวเล็ก
เรื่องของเรื่องมันเริ่มจากเจ้าลูกชายนี่แหละครับ ตอนแรกก็ส่งไปเรียนที่นึงแถวบ้าน เค้าลือกันว่าดีนักดีหนา ปรากฏว่าไปได้ไม่กี่ครั้ง ลูกผมเริ่มออกอาการครับ งอแง ไม่อยากไป ถามอะไรเกี่ยวกับโรงเรียนก็เงียบ ทำหน้าเหมือนอมทุกข์ ผมนี่ใจคอไม่ดีเลย

มีอยู่วันนึง ผมไปรับเค้าเร็วกว่าปกติ แอบดูอยู่ห่างๆ เห็นลูกนั่งซึมอยู่คนเดียวครับ ทั้งที่เพื่อนคนอื่นเค้าวิ่งเล่นกันสนุกสนาน โอ๊ยยย…ตอนนั้นมันจุกอกจริงๆ กลับบ้านมาคืนนั้นผมนอนคิดทั้งคืนเลยนะ ว่าเราพลาดตรงไหน หรือว่าลูกเรามันไม่เอาด้านภาษาจริงๆ วะเนี่ย
ผมเลยตัดสินใจใหม่ เอาวะ! ต้องหาให้รู้เรื่องกันไปข้างนึงว่าจริงๆ แล้วอะไรมันถึงจะดีกับเด็กจริงๆ ผมเริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับการสอนเด็กสองภาษาเลยครับ ดูคลิป ดูงานวิจัย (แบบบ้านๆ นะครับ ไม่ต้องวิชาการอะไรมาก) แล้วก็ที่สำคัญคือคุยกับพ่อแม่คนอื่นๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันเยอะมาก ได้อะไรดีๆ มาเพียบ
สิ่งที่ผมค้นพบ (แบบลูกทุ่งๆ)
จากที่ลุยมาทั้งหมดเนี่ย ผมว่าหัวใจสำคัญมันอยู่ที่นี่เลยครับ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย:
- ความสนุกต้องนำ: เด็กเล็กๆ นี่เค้าเรียนรู้ผ่านการเล่นครับ ถ้ามันน่าเบื่อ เค้าก็ปิดสวิตช์เลย โรงเรียนไหนที่ทำให้การเรียนภาษาเป็นเรื่องสนุกได้ อันนั้นแหละครับ ใช่เลย
- ครูคือทุกสิ่ง: ครูต้องเข้าใจเด็กจริงๆ ครับ ใจเย็น มีลูกล่อลูกชน รู้ว่าจะกระตุ้นยังไงให้เด็กอยากพูดอยากลอง ไม่ใช่เอาแต่สั่งๆๆ หรือทำหน้าดุๆ
- บรรยากาศต้องได้: ไม่ใช่แค่ห้องเรียนสวยๆ แอร์เย็นๆ นะครับ แต่หมายถึงความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เด็กกล้าที่จะลองผิดลองถูก กล้าพูดมั่วๆ บ้างก็ไม่เป็นไร
- พ่อแม่ต้องช่วยด้วย: อันนี้โคตรสำคัญเลยครับ โรงเรียนดีแค่ไหน แต่ถ้ากลับบ้านมาแล้วจบกัน มันก็ไปได้ไม่ไกลหรอกครับ พยายามคุยเล่นกับลูกเป็นภาษาอังกฤษบ้าง เปิดเพลงเด็กภาษาอังกฤษง่ายๆ ให้ฟังก็ยังดี
ผมไม่ได้จะบอกว่ามีโรงเรียนไหนดีที่สุดในโลกหรอกนะครับ เพราะเด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ครอบครัวแต่ละบ้านก็มีเงื่อนไขต่างกันไป แต่หลักการที่ผมเล่ามาเนี่ย ผมว่ามันใช้ได้กับเด็กส่วนใหญ่เลยนะ เวลาผมจะเลือกอะไรให้ลูกตอนนี้ ผมจะมองเรื่องพวกนี้เป็นหลักเลย ไม่ได้สนแค่ชื่อเสียงโรงเรียนดังๆ หรือค่าเทอมแพงๆ อย่างเดียวแล้ว
สุดท้ายนี้ ก็อยากเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนที่กำลังหัวหมุนกับการหาโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ นะครับ ลองใช้เวลาดูนิสัยลูกเราเยอะๆ ครับว่าเค้าเป็นเด็กสไตล์ไหน ชอบแบบไหน แล้วก็อย่าเพิ่งท้อครับ ค่อยๆ หาไป เดี๋ยวก็เจอที่ที่มัน “คลิก” กับครอบครัวเราแน่นอนครับผม!