เอาล่ะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงแบบบ้านๆ เรื่องเรียนภาษาอังกฤษของผู้ใหญ่ หลายคนอาจจะคิดว่าแก่แล้วจะเรียนไปทำไม แต่บอกเลยว่าไม่ลองไม่รู้!
เริ่มจากที่ผมรู้สึกว่าตัวเอง “กาก” ภาษาอังกฤษมาก คืออ่านได้นิดหน่อย ฟังพอรู้เรื่อง แต่พอจะพูดเท่านั้นแหละ…ใบ้กิน! เลยตัดสินใจว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองซะหน่อย เริ่มต้นจากการสำรวจตัวเองก่อนเลยว่าเราอ่อนตรงไหน อยากเก่งด้านไหน
- ฟัง: ฟังข่าว ฟังเพลง ฟัง Podcast ภาษาอังกฤษ
- พูด: หาเพื่อนต่างชาติคุย (สมัยนี้แอปเยอะแยะ), ฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก
- อ่าน: อ่านข่าว อ่านบทความ อ่านหนังสือภาษาอังกฤษที่เราสนใจ
- เขียน: เขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษ, คอมเมนต์ตามเพจต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ
ทีนี้มาถึงการเลือกวิธีการเรียน ผมลองมาหมด ทั้งเรียนออนไลน์, เรียนกับครูสอนพิเศษ, เรียนจากแอปต่างๆ แต่สุดท้ายก็พบว่าสิ่งที่เหมาะกับตัวเองที่สุดคือการ “ผสมผสาน” ทุกอย่างเข้าด้วยกัน
เรียนออนไลน์: ผมเลือกคอร์สที่เน้น Conversation เพราะอยากพูดได้คล่องๆ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งแกรมม่านะ เรียนรู้หลักไวยากรณ์ควบคู่กันไป
เรียนกับครูสอนพิเศษ: ครูจะช่วยปรับแก้สำเนียงและช่วยให้เรากล้าพูดมากขึ้น ครูของผมใจดีมาก คอยให้กำลังใจตลอด
เรียนจากแอป: แอปช่วยให้เราฝึกภาษาได้ทุกที่ ทุกเวลา ผมใช้แอป Duolingo เล่นเกมส์ฝึกศัพท์และไวยากรณ์เพลินๆ
เคล็ดลับเพิ่มเติมที่อยากแชร์
สร้างบรรยากาศรอบตัวให้เป็นภาษาอังกฤษ: เปลี่ยนภาษาในมือถือเป็นภาษาอังกฤษ, ดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษ (เปิดซับไตเติ้ลช่วงแรกๆ), อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ
อย่ากลัวที่จะพูดผิด: ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ทุกคนต้องเคยผิดพลาดทั้งนั้น สิ่งสำคัญคือเรียนรู้จากความผิดพลาดและพัฒนาตัวเองต่อไป
หาเพื่อนร่วมเรียน: การมีเพื่อนร่วมเรียนจะช่วยให้เรามีกำลังใจและแลกเปลี่ยนความรู้กันได้
อย่าท้อแท้: การเรียนภาษาต้องใช้เวลาและความอดทน บางทีอาจจะรู้สึกว่าไม่เห็นผล แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเราพยายามอย่างสม่ำเสมอ เราจะเก่งขึ้นแน่นอน
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าการเรียนภาษาอังกฤษของผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แค่เปิดใจและลงมือทำ รับรองว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน! ตอนนี้ผมก็ยังไม่เก่งมาก แต่ก็กล้าที่จะพูดคุยกับชาวต่างชาติมากขึ้น ดูหนังฟังเพลงรู้เรื่องมากขึ้น อ่านข่าวเข้าใจมากขึ้น แค่นี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะ