เริ่มแรกนึกว่าการเรียนภาษาอังกฤาเรื่องง่าย จ่ายตังค์สมัครคอร์สเรียนออนไลน์แบบสุดๆ หวังว่าต่อเดือนน่าจะพอเอาตัวรอดได้
แต่พอเริ่มเรียนวันที่หนึ่งนี่สิฮะ เจออาจารย์ฝรั่งพูดเร็วปรู๊ด! ฟังแทบไม่ทัน นั่งกุมขมับอยู่หน้าจอคอมพยายามจำศัพท์ เอาต์พุท ฟังแล้วงงว่าแม่งคือไรวะ พิมพ์หาคำแปลก็ไม่ตรงซะที จนถึงนาทีที่ 30 ผมดันกดปิดคลาสซะงั้น แล้วก็ลงไปนอนราบกับพื้น เห้อ…
แผนB ที่โดนชีวิตตบหน้า
- ลองท่องศัพท์วันละ 30 คำ – สามวันแรกฮึกเหิม ลิสต์กระดาษติดผนังห้องน้ำ เดินฉี่ยังท่อง “apparently” ซ้ำๆ
- สัปดาห์ถัดมามันคือฝันร้าย – พอไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ลืมหมด! เวลาคิวเก็บเงิน แค่อยากถามว่า “ถุงพลาสติกต้องจ่ายเพิ่มมั้ย” ยังพูดไม่ออก สุดท้ายยืนเงียบกวาดสายตาหาถุงแบบงี่เง่า
จุดเปลี่ยนมาแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนไปกดเงินสดหน้าATM ธนาคารอังกฤษ เครื่องดันถาม security question ซะงั้น มันถามเป็นสำเนียงสก็อตชั้นหนัก! กด skip ไม่ได้ หน้าเครื่อง ATM ร้อนผ่าว ผมยืนแข็งทื่อราว 5 นาที ในหัวมีแค่ประโยคเดิมๆที่ท่องมา “How are you? I’m fine thank you” ซึ่งมันช่วยอะไรไม่ได้เลย…
ทางรอดที่ได้จากการซวย
ร้านกาแฟแถวอพาร์ทเมนต์นี่แหละคาถา วันนึงสั่งลาเต้ปั่นพลาดๆ เผลอพูดตะกุกตะกักว่า “Could ice… no… cold… please?” บาริสต้าพันธมิตรผมเกาะตาแดงๆ แล้วตอบกลับมาอย่างช้าๆ “Chill? You wanna cold latte yeah?” น้ำตาซึมจะไหล ผมพยักหน้ารัวๆ อย่างมีความสุข
ตั้งแต่นั้นเลยเปลี่ยนท่าทิ้งหนังสือ

- เปิดยูทูปฟังแต่คลิปคนอังกฤษนั่งเมาท์มอย ไม่ใช่คลิปเรียนภาษา
- เวลาขึ้นรถเมล์แกล้งหลงทาง ขอเส้นทางคนขับบ่อยๆ แรกๆเค้าเลิกคิ้วสงสัย แต่พอนั่งฟังติดๆห่างๆ เริ่มแยกสำเนียงลอนดอน/แมนเชสเตอร์เป็น!
- จับคู่แลกภาษากับเพื่อนซี้ชาววิลส์ที่เจอในร้านเกม เขาสอนผมพูดเบาส์ (boys) แบบแท้ๆ ผมสอนเค้าร้องเพลง “ส้มตำ” จนติดป้าย
สุดท้ายช่วงปิดคลิปนี้ บอกเลยว่ามีสำเนียงเหนืออังกฤษแท้ๆ ฝรั่งถามยี้ว่า “มาจากลิเวอร์พูลเหรอ” ทั้งๆที่ผมไทยร้อยเปอร์ แต่ถ้าให้พูดกับแผนกบัตรเครดิต? โทรไปแจ้งย้ายที่อยู่ยังได้ยินพนักงานขำคิกคักเบาๆ ตอนผมพูดคำว่า “postcode” แบบออกเสียงโทนเสียงแหลม… ช่างแม่งมันเถอะ รู้เรื่องก็พอ!